เพราะเขาโชคดี เขาถึงทำสำเร็จ
เพราะเขามีโอกาสดี ถึงทำอย่างนี้ได้
หลายคนที่มีชีวิตดีเพราะมีโชคมีโอกาสมีจังหวะเหมาะเข้ามา จึงพาให้ชีวิตพิชิตความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องจริงอยู่มากทีเดียว
เช่น เพราะหุ้นตกเขาจึงซื้อหุ้นได้ในราคาถูก เพราะเศรษฐกิจไม่ดีเขาจึงซื้อที่ดินได้ในราคาถูกกว่าปกติ เพราะคนในองค์กรขาด เขาสมัครงานเข้ามาพอดีถึงมีงานทำ
หลายคนเรียกสิ่งนี้ว่า โชคดี โอกาสดี จังหวะดี หรืออะไรก็แล้วแต่ เชื่อหรือไม่ว่าโอกาสดีในชีวิตสามารถสร้างได้ ถ้าทำตามนี้
- เชื่อว่าทำได้
ความเชื่อเป็นตัวกำหนดชีวิตคน ถ้าเชื่อว่าเป็นไปได้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ถ้าเชื่อว่าทำได้ก็จะลงมือทำ ในที่สุดก็มีโอกาสทำได้
ดังนั้น ถ้าเชื่อว่าโอกาสดีๆ ในชีวิตก็เท่ากับว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งทาง
เพราะความเชื่อจะนำไปสู่การลงมือทำ และเมื่อได้ทำก็หวังผลได้นั่นเอง
ต้องใช้ศรัทธาเป็นตัวนำทาง ไม่ใช่ใช้ความกลัวนำชีวิต
กลัวไม่สำเร็จ กลัวทำไม่ได้ กลัวล้มเหลว กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะ กลัวเขาจะหาว่ามักใหญ่ใฝ่สูง
ความกลัวจะฉุดรั้งเราไว้ไม่ให้ก้าวขาออกไปข้างหน้า และให้เรายืนเต๊ะท่าอยู่ในดินแดนแห่งความปลอดภัย ซึ่ง ณ ที่นั้นไม่มีอะไรงอกงาม
ดังนั้นถ้าอยากมีโอกาสดีๆ ในชีวิต ต้องเริ่มต้นที่ความคิดก่อน คิดว่าเราทำได้ เรามีโอกาสดีๆ เข้ามาได้ เราประสบความสำเร็จได้ ชีวิตลิขิตได้
ไม่มีลิมิตถ้าคิดว่าทำได้
2. ทำทันที
ต่อให้มีความคิดที่ดีแค่ไหนแต่มันก็ไร้ค่าถ้าไม่ทำ
นวัตกรรมล้ำยุค ศิลปะล้ำค่า ผลงานตระการตาล้วนมาจากการลงมือทำ
อยากสร้างปฎิมากรรมที่สวยงามแค่ไหน ถ้ามันอยู่แต่ในความคิด ไม่ถูกผลิตให้ออกมาเป็นรูปธรรม
มันก็แค่สวยงามอยู่ในความคิดของคนนั้นเท่านั้นเอง
ดังนั้น ถ้าอยากสร้างโอกาสให้ชีวิต เมื่อคิดแล้วต้องทำ
ทำทันทีเท่าที่จะทำได้ ทำไปปรับไปแก้ไปแล้วจะสำเร็จได้เอง อย่าหวังว่าทำครั้งแรกต้องเพอร์แฟคไร้ที่ติ ซึ่งเป็นไปไม่ได้
และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนไม่ลงมือทำสักที เพราะกลัวว่าทำแล้วจะออกมาไม่ดี คือทำทั้งที่ต้องให้ดีสุดๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้
และข้อดีของการทำทันทีคือได้เริ่มก้าวออกไป ทำให้ก้าวต่อไปจะตามมาและทุกก้าวจะเข้าใกล้เป้าหมายเข้าไปทุกที
หรือต่อให้ล้มระหว่างทางยังไม่ถึงเป้าหมาย แต่ไม่มีอะไรที่สูญเปล่าเพราะอย่างน้อยเราก็ได้ก้าวออกมา มีประสบการณ์ มีแนวทาง มีจุดหมาย
เวลาที่ล้มลงไปเราก็ล้มไปข้างหน้า เพราะว่าก้าวออกมาตั้งไกล และเวลาที่จะลุกขึ้นมาใหม่ เราก็ลุกจากจุดที่เราล้ม เราไม่ได้กลับไปที่จุดเริ่มต้น ดังนั้นเหลือระยะทางอีกไม่ไกลก็ถึงเป้าหมาย
เวลาก้าวออกไปแล้วต่อให้ล้มไม่เป็นท่า ยังไงก็ยังดีกว่าคนที่ยืนที่เดิมตลอดเวลา เพราะไม่กล้าก้าว
3.พัฒนาความสามารถ
ถ้าอยากมีโอกาสทองในชีวิต ต้องพยายามพัฒนาความรู้ความสามารถของตัวเองให้ดีขึ้นตลอดเวลา
เพราะ ความสำเร็จคือการที่ความพร้อมกับโอกาสมาบรรจบกัน
ถ้าโอกาสมาแต่ยังไม่พร้อม โอกาสก็เป็นเพียงอากาศที่ล่องลอยหายไปจับต้องไม่ได้
แต่ถ้าความพร้อมกับโอกาสมาบรรจบกัน ความสำเร็จก็เริ่มต้นได้ไม่ยาก
เช่น ฝึกปรือการร้องเพลงจนเชี่ยวชาญ พอเขาเปิดสมัครแข่งขันร้องเพลงก็สมัครเข้าไป มีโอกาสชนะการประกวดได้
ฝึกซ้อมกีฬาที่ชอบอย่างตั้งใจ จนพัฒนาฝีมือได้เยี่ยมยอด พอเขาเปิดคัดตัวนักกีฬา ก็สมารถคัดตัวผ่านได้อย่างสบาย
ดังนั้นอยากมีโอกาสดีในชีวิต ต้องพัฒนาฝีมือความรู้ความสามารถของตัวเองให้เก่งกล้า เมื่อมีโอกาสดีๆ ผ่านเข้ามา เราสามารถทำให้มันเป็นโอกาสทองของชีวิตได้
4. สร้างโอกาส
บางคนความรู้ความสามารถดี แต่ไม่เคยมีโอกาสดีๆในชีวิตเลย ก็เพราะมัวแต่รอโอกาส แล้วชีวิตนี้จะมีโอกาสดีๆ ผ่านเข้ามาสักกี่หน
ดังนั้นแทนที่จะนั่งรอโอกาสอย่างไร้ความหวัง ให้ลุกขึ้นมาสร้างโอกาสแทน
เช่น เรามีความรู้ความสามารถความเชี่ยวชาญด้านไหน ให้แสดงให้โลกได้เห็นอย่าเก็บไว้ภูมิใจคนเดียว
เช่น เราพูดได้ 8 ภาษา ก็ให้แสดงออกทาง platform ต่างๆ หรือสร้างช่องเป็นของตัวเอง หรือเผยแพร่ใน social media
ถ้าเราร้องเพลงเพราะก็หาเวทีขึ้นประกวดแข่งขันร้องเพลง จะแพ้หรือชนะแต่คนเขาก็ได้เห็นฝีมือการร้องเพลงของเรา อาจจะเข้าตาใครสักคนก็เป็นได้
อยากมีความเชี่ยวชาญชำนาญด้านไหน ก็เอาตัวเข้าไปอยู่ในวงการนั้น เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ้ามีอะไรดีก็แสดงให้เขาดูเขาเห็น สักวันเราอาจจะเป็นคนหนึ่งในวงการที่เราใฝ่ฝันก็ได้
ฉะนั้น ไม่ต้องรอเวลา ไม่ต้องรอจนกว่าราชรถมาเกย ไม่มีโอกาสก็สร้างโอกาสขึ้นมา ไม่เจอก็เสาะหา ถ้าไม่ฟันฝ่า ก็ไม่น่าได้อะไรที่ต้องการ
ในชีวิตนี้เราอาจจะมีโอกาสดีๆ เข้ามามากมาย
แต่โอกาสที่ดีที่เราไม่เคยได้ อาจเป็นเพราะว่า
เราไม่ได้สร้างคุณค่าในตัวตน ให้เป็นคนที่เหมาะกับการได้รับโอกาส
คอลัมน์: ก้าวไกลไปข้างหน้า
เรื่อง: จตุพล ชมภูนิช
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์