“พวกเรา CGM48 สวัสดีเจ้า”
แม้ชุดที่สวมใส่จะออกสไตล์ร็อกเกอร์สาวมาดเข้ม แต่เสียงแนะนำตัวอันสดใสและกระตือรือร้นของเด็กสาวทั้งหกจากเชียงใหม่ก็เปลี่ยนบรรยากาศในห้องสัมภาษณ์ให้มีชีวิตชีวา มุ้งมิ้งขึ้นทันตาเห็น CGM48 นั้นคือวงน้องสาวของ BNK48 แต่ต่างจากวงพี่สาวคือมีฐานการทำกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ CGM48 จึงมักสอดแทรกวัฒนธรรมภาคเหนือของไทยผสมผสานความเป็นไอดอลญี่ปุ่นซึ่งรับมาจาก AKB48 เพลงโปรโมตทุกเพลงไม่ใช่แค่การแปลเนื้อจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทย แต่ยังเพิ่มท่อนร้องภาษาเหนืออีกด้วย เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นประจำวง ออลฯ ได้สนทนากับหกสาวตัวแทน CGM48 ได้แก่ ‘ออม’ พี่ใหญ่และกัปตันวง ‘ฟอร์จูน’ จัดอยู่ในกลุ่มพี่ใหญ่ของวงรองจากออมและรินะ ‘พิม’ สาวผมแดงน้องเล็กสุดในกลุ่มหกคนนี้ ‘แองเจิ้ล’ สดใสน่ารักสมกับการเป็นไอดอล ‘มามิ้งค์’ นิ่งบ้างคึกบ้าง ใจดีมีเมตตาคือนิสัยของเธอที่แองเจิ้ลอธิบาย และ ‘นีนี่’ สาวชิลล์ซึ่งนิยามตนเองว่า สาระไม่มีหน้า01ตาดีไปวันๆ เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน
เส้นทางกว่าจะมาเป็นเมมเบอร์ CGM48 ของแต่ละคน
แองเจิ้ล: พวกเรามาจากหลายจังหวัดเพื่อออดิชันเป็น CGM48 โดยมีพี่ ‘ออม’ และพี่ ‘รินะ’ ซึ่งย้ายมาจากวง BNK48 เป็นคนคัดเลือก นับจากวันแรกที่เริ่มฝึกก็ใช้เวลาทั้งหมด 3 เดือนในการซ้อมกว่าจะได้เดบิวต์ พี่ ‘รินะ’ กล่าวตั้งแต่แรกว่าเราจะเป็นวงที่เน้นเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดี ในส่วนของแองเจิ้ลนั้น ติดตามวงรุ่นพี่ BNK48 อยู่แล้วและชอบความเป็นไอดอลญี่ปุ่น บวกกับชอบร้องเพลงด้วย และเสียงของเราค่อนข้างสูงจึงเหมาะกับเพลงแนวไหนไปไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่เพลงของ 48 กรุ๊ป เลยมาออดิชันค่ะ
นีนี่: เพื่อนชวนมาสมัครค่ะ ปรากฏเพื่อนไม่ติดแต่หนูติด เราชอบวงการบันเทิงอยู่แล้ว อยากลองทำอะไรที่ท้าทายตัวเอง
ฟอร์จูน: หนูมีความฝันอยากเป็นไอดอล เป็นศิลปิน จริงๆ มาออดิชั่นตั้งแต่ BNK48 รุ่น 2 แล้ว แต่ไม่ติด มาลงตัวที่ CGM48 แทน
มามิ้งค์: ตัวหนูเป็นคนไม่ค่อยกล้าแสดงออก ขี้อาย แต่เราแอบชอบการร้องการเต้น การได้เป็นศิลปิน เลยลองท้าทายตัวเองดูสักครั้ง
ออม: ของออมสมัคร BNK48 รุ่น 2 เพราะติดตามผลงานรุ่น 1 ครั้งแรกที่ได้ไปดูโชว์ก็รู้สึกตกหลุมรัก เลยส่งใบสมัคร พอเป็นรุ่น 2 สักพักผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสในการเป็นกัปตันวงน้องสาว และเห็นว่าเป็นคนเชียงใหม่ด้วย จึงได้ย้ายมาเป็นกัปตันวง CGM48 ค่ะ
พิม: หนูติดตาม BNK48 มาก่อน คุณพ่อก็ถามว่าลองดูไหม ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ปรากฏว่าได้ค่ะ
ความโหดหินของการเป็น CGM48 ที่แต่ละคนเจอ
พิม: แม้เราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวแต่สุดท้ายคือการแข่งขัน มันไม่มีที่ว่างสำหรับทุกคน เพื่อที่จะได้อยู่ตรงนั้นเราก็ต้องแข่งขันกัน
ออม: ตอนที่ยังไม่ออกแสดงเห็นเขาเต้นบนเวทีก็คิดว่าไม่น่าจะยากอะไร จนมาเจอเอง กว่าจะได้ขึ้นเวทีแต่ละครั้งต้องซ้อมหนัก กว่าจะได้รับเลือกให้ไปออกงานก็ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องฝ่าฟัน อย่างที่น้องพิมบอกมันคือการแข่งขัน ต้องฝึกซ้อมจริงจัง พัฒนาตัวเองเสมอ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะถ้าเราหยุดพัฒนาเมื่อไหร่เราจะโดนน้องรุ่นใหม่แซงได้
มามิ้งค์: สำหรับหนูคือเรื่องเต้น หนูไม่มีพื้นฐานการเต้นเลย จึงฝึกซ้อมตามเพื่อนๆ ได้ค่อนข้างยาก ยิ่งวงเราเน้นการเต้นที่แข็งแรงด้วย
ฟอร์จูน: สำหรับฟอร์จูนคือการที่เด็กธรรมดาคนหนึ่งเปลี่ยนชีวิตกลายมาเป็นไอดอล เราเรียนรู้ใหม่ทุกอย่าง การปรับตัวไม่ใช่เรื่องง่าย และคิดว่าคงไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตก่อนเข้าวงการได้แล้ว
นีนี่: การมาอยู่ตรงนี้ต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง อิสระน้อยลง ทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบมากขึ้น แล้วยังต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งรอบด้านเพื่อสู้คนอื่นๆ ได้ ถ้าเราพัฒนาไม่มากพอ ก็จะไม่สะดุดตาแฟนๆ
แองเจิ้ล: สำหรับหนูคือการมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เราต้องเป็นไอดอลที่เก่ง และยังต้องเรียนหนังสือด้วย เราต้องทำทั้งสองอย่างให้ดีควบคู่กันไป เป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงของไอดอลค่ะ
ช่วงเวลาแห่งความรู้สึกโชคดีที่ได้เป็น CGM48
แองเจิ้ล: สิ่งที่ประทับใจที่สุดคงเป็นมิตรภาพของเมมเบอร์ พอรู้ว่าต้องมาอยู่ร่วมกัน 25 คน แล้วผู้หญิงล้วน เหมือนโรงเรียนประจำเลย มีคิดเหมือนกันว่าจะอยู่ได้ไหมนะ แต่พอเอาเข้าจริงเราอยู่กันแบบครอบครัวมาก ช่วยเหลือซึ่งกันและกันทุกครั้งที่มีโอกาส ใครเก่งด้านไหนก็แลกเปลี่ยนกัน
ฟอร์จูน: สำหรับหนูคือการได้มาอยู่กับน้องๆ อายุน้อยกว่า หนูจัดอยู่ในกลุ่มเด็กโต แต่พอมาอยู่ร่วมกับน้องๆ บางทีเราก็ลืมไปเลยว่าโตกว่า นึกว่ารุ่นเดียวกัน น้องๆ ชวนหนูไปเล่นน้ำฝน ไปทำโน่นทำนี่ด้วยกัน รู้สึกน่ารักจังเลย รวมทั้งการได้เจอคนใหม่ๆ ได้เจอเพื่อน เจอแฟนคลับ เป็นโอกาสอันโชคดีที่ได้มา
พิม: ทุกอย่างที่เป็น CGM48 สร้างให้หนูเป็นหนูในทุกวันนี้ค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง BNK48 กับ CGM48
ออม: ตอบในฐานะที่อยู่มาทั้งสองวงนะคะ แต่ตอนนี้เลือดสีเขียวมินต์ (สีประจำวง CGM48) แล้วค่ะ (หัวเราะ) คิดว่าคงเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างกัน อย่าง BNK48 ดูโตเป็นสาวกว่า แม้เมมเบอร์ยังอายุน้อย แต่ลุคของวงจะดูโตกว่า ส่วน CGM48 ภาพออกแนวเด็กน้อยน่ารัก สนุกสนาน ไม่ว่าเมมเบอร์จะอายุเยอะหรือน้อยก็ดูกลมกลืนกัน แฟนๆ จะค่อยๆ ได้เห็นพัฒนาการของพวกเรา เป็นเสน่ห์ในแบบฉบับของ CGM48 ค่ะ
ช่วยเล่าถึงซิงเกิล Maeshika Mukanee สุดเส้นทาง และความประทับใจที่มีต่อซิงเกิลนี้
ฟอร์จูน: เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 4 ของพวกเรา มีชื่อภาษาไทยว่าสุดเส้นทาง คอนเซ็ปต์ต่างจากเพลงอื่นที่น่ารักสดใส คือมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แนวร็อกเกอร์สาว มีโยกหัว ใช้ขาไมค์ในการแสดง ท่าเต้นเพิ่มช่วงฟรีสไตล์ ส่วนเนื้อเพลงเป็นแนวให้กำลังใจ สิ่งที่หนูประทับใจที่สุดในเพลงนี้คือการที่เมมเบอร์ CGM48 ได้มีส่วนร่วมปรับคำในเนื้อเพลง ตอนแรกพี่ ‘ติ๊ก’ วงเพลย์กราวด์ ช่วยแปลให้ แล้วพวกหนูรู้สึกว่าเนื้อร้องสามารถถ่ายทอดความเป็น CGM48 ได้มากกว่านี้ ก็ชวนน้องๆ ล้อมวงระดมสมอง ไม่ว่าจะเป็นเซ็มบัตสึ อันเดอร์เกิร์ล คุณครู ทีมงาน ต่างช่วยกันออกความคิดเห็น เราทุกคนต่างมีส่วนร่วมด้วยกัน
แองเจิ้ล: ชอบที่สุดคือชุดเซ็มบัตสึค่ะ เป็นชุดที่ออกแบบเข้ากับเรือนร่างของแต่ละคน คนนี้เหมาะกับแขนตุ๊กตา คนนี้เหมาะกับกางเกง มีถุงน่องยาว ถุงน่องสั้น ดูใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ประดับผมก็ทำออกมาสวยมากค่ะ
ประสบการณ์ ‘สุดเส้นทาง’ ของสาวๆ CGM48
พิม: ทุ่มเทที่สุดคือ CGM48 นี่แหละค่ะ ไม่เคยทุ่มเทให้อะไรมากขนาดนี้ และหนูได้เปลี่ยนแปลงตัวเองในหลายแง่มุมเพราะ CGM48 เหมือนกันค่ะ
มามิ้งค์: การโยกหัวค่ะ ฝึกกันจนสุดเส้นทางเลยค่ะ
ฟอร์จูน: ก่อนที่จะได้เป็นเมมเบอร์ CGM48 หนูออดิชันมาเยอะจนเกือบถอดใจ หนูพูดกับตัวเองก่อนมาออดิชัน CGM48 ว่าถ้าครั้งนี้ยังไม่ผ่านอีกก็พอแล้วนะ CGM48 จึงเป็นเหมือนเป้าหมายสุดท้ายที่เราตั้งความหวัง แต่สิ่งที่คิดว่าเป็นสุดเส้นทางแล้วนั้นก็เปิดเส้นทางใหม่ออกไปเรื่อยๆ
ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ความผิดหวังและการเอาชนะความผิดหวังนั้นของแต่ละคน
พิม: ของหนูเป็นเรื่องเรียนค่ะ ตอนเด็กๆ หนูเรียนคณิตไม่เก่ง สอบตกด้วย พอเห็นคะแนนตัวเองก็กลับมาร้องไห้ที่บ้าน รู้สึกผิดหวัง ทำไมเราไม่ตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ ไม่ได้การแล้วเราต้องปรับปรุงตัว หนูจึงติวคณิตเพิ่มจนคะแนนดีขึ้น
ออม: ประสบการณ์ของหนูคือการที่โอกาสของเรายังมาไม่ถึงมากกว่า ตอนหนูเข้ามาเป็น BNK48 รุ่นสอง เห็นเพื่อนคนอื่นทยอยได้รับเลือกแต่โอกาสก็มาไม่ถึงเราซักที หรือตอนลงแข่งขันในงานเจเนอรัลอิเล็กชัน (งานเลือกตั้ง) เราก็เป็นอันเดอร์เกิร์ลที่เฝ้ามองความสำเร็จของเพื่อนๆ มาก่อน หนูพยายามบอกตัวเองเสมอว่าเราต้องพัฒนา เราต้องก้าวไปข้างหน้าให้ได้ โดยไม่ปฏิเสธทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา เช่น การเป็นกัปตันวง CGM48 ช่วงแรกเครียดมากว่าจะทำได้รึเปล่า แต่เราก็พร้อมท้าทายตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นโอกาสที่อยากได้หรือไม่ก็ตามล้วนช่วยพัฒนาตัวเราให้ก้าวไปข้างหน้าทีละนิด
นีนี่: หนูรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งสักด้าน ไปไม่สุดสักอย่าง มีช่วงหนึ่งที่หมดไฟเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไรกันแน่ แต่การเข้ามาติด CGM48 ก็จุดไฟในตัวขึ้นมาอีกครั้ง มีเป้าหมาย มีกำลังใจมากขึ้น
แองเจิ้ล: ในทุกๆ ซิงเกิล ตำแหน่งของหนูมักอยู่ที่เดิม หนูอยากจะพัฒนาตัวเอง ต่อสู้กับตัวเองแล้วเอาชนะความกลัวเรื่องการเต้น มีความกล้ามากกว่านี้ เพื่อที่สักวันจะได้ไปยืนในตำแหน่งแถวหน้าบ้าง
มามิ้งค์: ช่วงแรกที่เข้าวงหนูท้อแท้กับการเต้นมากค่ะ พอมองเพื่อนๆ เห็นเขาตามท่าได้ไว ในขณะที่เราเต้นไม่เป็น ล็อกท่าไม่ได้ ดูตัวเองในกระจกก็ทำไม่สวยเหมือนเพื่อน แต่เราก็ไม่หยุดซ้อม จนวันหนึ่งมองตัวเองในกระจกแล้ว เฮ้ย เราเต้นได้นะ ภูมิใจมากค่ะ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ถ้ายังมีใจสู้
ฟอร์จูน: สำหรับฟอร์มีช่วงหนึ่งที่เรียกว่ายอมแพ้เรื่องการร้องเพลงเลย หนูไม่ชอบเสียงตัวเอง รู้สึกแย่เวลาได้ยิน เหมือนมีเสียงที่คอยป้อนคำลบให้ตัวเองฟังอยู่ตลอด ไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่ไม่ชอบการร้องเพลงขนาดนี้ ถึงขั้นไม่อยากอยู่วงต่อ อยากยอมแพ้ทุกอย่าง สุดท้ายหนูแก้ไขด้วยการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ อาศัยเวลาค่อยๆ ฟื้นความมั่นใจ เพราะไม่ว่าอย่างไรการร้องเพลงคือสิ่งที่เราชอบจริงๆ
เพลงที่ปลุกกำลังใจสาวๆ CGM48 ให้ฮึกเหิมอีกครั้ง
ฟอร์จูน: ต้องเพลงนี้เลยค่ะ สุดเส้นทาง หนูชอบท่อน “จงเข้มแข็งเอาไว้” ท่อนที่หนูร้อง พอได้เต้นก็จะฮึกเหิม พลังมาจากไหนไม่รู้ เหมือนแทนชีวิตตัวเองที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้องเข้มแข็งเข้าไว้แล้วก้าวต่อไป
แองเจิ้ล: ท่อนของตัวเองในเพลงสุดเส้นทางเหมือนกันค่ะ “กัดฟันลุกขึ้นแล้วเดินก้าวไป” คำในท่อนนี้มันกินใจเรา เพื่อนๆ กัดฟันลุกขึ้น ส่งกำลังใจแล้วเต้นต่อ
มามิ้งค์: เพลงเดียวกันค่ะ หนูชอบท่อน “ไม่ว่ามันปวดร้าวสักเท่าไร ที่สุด คงไม่มีวันจะเสียใจตลอดไป จงเข้มแข็งเอาไว้” เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าปัจจุบัน
นีนี่: เพลงสุดเส้นทางท่อน “โปรดจงเชื่อมั่นในวันพรุ่งนี้ของเรา” แม้วันนี้จะไม่ดีแต่เรายังมีพรุ่งนี้ให้สู้ต่อได้
ออม: “ขอให้ผ่านพ้นด้วยความสวยงามเรื่อยไป” เพลงสุดเส้นทางค่ะ หนูสะดุดใจประโยคนี้ สุดท้ายเราก็อยากให้ชีวิตผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายทุกๆ เรื่องไปอย่างสวยงามตลอด
พิม: ของหนูชอบท่อนที่ตะโกน เยส! ของเพลงสุดเส้นทาง เวลาเหนื่อยๆ แล้วได้ยินเสียงเพื่อนหรือแฟนคลับตะโกนเยส! เราจะมีพลังฮึดขึ้นมาทันที สนุกมากที่ได้ร้องท่อนนี้
เพลง CGM48 ที่ชอบที่สุด
แองเจิ้ล: Chain of love หนูรู้สึกว่าเพลงนี้ตรงกับชีวิต เห็นภาพเพื่อนช่วยเรา เราช่วยเพื่อน ชีวิตในหอ จริงๆ เนื้อเพลงค่อนข้างเศร้า แต่เราร้องด้วยรอยยิ้ม
นีนี่: Tomodachi เพื่อน ตอนที่ฟังพี่ฟอร์กับพี่เจิ้ลร้องแล้วรู้สึกอยากร้องไห้ตามเนื้อหา และเวลาที่ฝึกร้องเพลงก็รู้สึกอินจริงๆ เลยชอบเป็นพิเศษค่ะ
ฟอร์จูน: Chaing Mai 106 เป็นเพลงเดบิวต์ ความหมายพูดถึงการย้ายถิ่นฐานมาเชียงใหม่ เส้นทางของเราอาจเกิดสิ่งต่างๆ ขึ้นมากมาย เป็นเพลงแห่งจุดเริ่มต้นที่เราไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ตรงไหน แต่ระหว่างทางเรามีความสุขมากๆ
มามิ้งค์: Anata ga Ite Kureta Kara บ้านแห่งหัวใจ พูดถึงความทรงจำกับเพื่อน กับแฟนคลับ กับครอบครัว สามารถสื่อได้หมดเลย เนื้อเพลงฟังแล้วซึ้ง นึกถึงภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็อบอุ่นใจค่ะ
ออม: จริงๆ รักทุกเพลงเพราะเปรียบเสมือนไดอารี่ที่บันทึกเรื่องราวของ CGM48 แต่ถ้าให้เลือกขอเลือกเพลงเดบิวต์ Chaing Mai 106 แค่ดนตรีขึ้นภาพวันแรกที่ได้ขึ้นเวทีด้วยกันก็ลอยมา รู้สึกมีพลัง และพวกเรายังอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้นะ
พิม: หนูชอบ Anata ga Ite Kureta Kara บ้านแห่งหัวใจ ฟังครั้งแรกร้องไห้เลย หลับตาฟังแล้วเห็นภาพเพื่อนๆ CGM48 ความทรงจำต่างๆ ที่เราผ่านอะไรมาด้วยกัน วิ่งหนีระเบิดเราก็ทำมาแล้ว (หัวเราะ)
สำหรับ ‘ฟอร์จูน’ ในบทบาทเซ็นเตอร์เพลงหลักและกัปตันทีม C
ฟอร์จูน: เป็นครั้งแรกของหนูจึงค่อนข้างคาดหวังความสมบูรณ์แบบในทุกๆ อย่าง หนูต้องเต้นให้ดี ร้องให้ดี หน้าก็ต้องดูดี กดดันตัวเองจนลืมตัวตนไปพักหนึ่ง จนวันที่ได้ขึ้นเวทีเพื่อโชว์ครั้งแรก สิ่งที่กังวลในหัวหายวับไปหมด หนูไม่แคร์ตรงนั้นอีกแล้ว แค่เต็มที่กับโชว์บนเวที ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ กลายเป็นว่าทำได้ดีที่สุด และเป็นวันที่หนูเข้าใจว่าการเป็นเซ็นเตอร์ต้องทำหน้าที่ยังไง เพื่อนๆ ต่างทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี เราแค่เป็นคนดึงเพื่อนๆ ให้มารวมกัน แล้วดันเพลงนี้ไปด้วยกันค่ะ
ส่วนตำแหน่งกัปตันทีมซี ตอนแรกหนูคาดหวังว่าเราน่าจะทำหน้าที่นี้ได้ และอยากรับตำแหน่งนี้ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็ได้เรียนรู้ว่าการเป็นผู้นำไม่ใช่เรื่องง่าย ดูตัวอย่างจากพี่ออม พี่รินะ รู้สึกว่าค่อนข้างยาก หรือเราไม่เป็นดีกว่า แต่วันนี้ได้รับโอกาสแล้วก็จะดูแลทีมซีอย่างดี ให้ทุกคนมีการแสดงที่ดี ทำให้ทุกคนชอบทีมนี้ สำหรับคนที่ถามเรื่องเธียเตอร์ ตอนนี้มีทีมแล้วเธียเตอร์ก็ไม่นาน เริ่มซ้อมกันแล้ว อุ๊ย! หลุดพูดอะไรไปรึเปล่า (หัวเราะ)
ความคาดหวังในเส้นทางไอดอล
พิม: หนูอยากเป็นเซ็นเตอร์สักครั้งในชีวิต ถ้าได้คงรู้สึกฟินมากๆ คุณพ่อน่าจะมีความสุข เพราะเขาก็หวังจะเห็นเหมือนกัน แต่ตอนนี้ขอฝึกซ้อมก่อนเพราะรู้สึกยังไม่พร้อมค่ะ
นีนี่: หนูอยากรู้จักคนเยอะๆ เพราะในอนาคตก็อยากทำงานสายนี้ อาจทำเบื้องหลังก็ได้ เพราะหนูเรียนมาทางด้านนี้ อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด และอยากทำคอนเสิร์ตกับเพื่อนๆ อยากเห็นทุกคนเฉิดฉาย ได้ทำสิ่งที่อยากทำ
แองเจิ้ล: หนูอยากได้รับโอกาสทำงานหลายๆ ด้าน เช่น เล่นซีรีส์เหมือนพี่ฟอร์ พี่ออม หรือเล่นภาพยนตร์ เล่นเอ็มวี เพราะเราก็อยากรู้ว่าตัวเองชอบงานด้านไหนมากที่สุด เพื่อจะได้มุ่งไปทางนั้นถูกในอนาคต
ฟอร์จูน: ความฝันสูงสุดของหนูคือการให้ CGM48 แมส หรือเป็นที่รู้สึกกันทั่วถึง เพราะตอนนี้เรายังเป็นนีชมาร์เกตอยู่ หนูอยากให้คนรู้จักเราทั้ง 23 คน แต่ละคนคือใคร ถนัดอะไรบ้าง อยากให้โอกาสเกิดขึ้นกับทุกคนอย่างทั่วถึง เท่าๆ กัน อยากให้เป้าหมายนี้สำเร็จก่อนจะไม่ได้อยู่ตรงนี้
มามิ้งค์: มามิ้งค์อยากเป็นไอดอลที่มีความสุขค่ะ เอ็นจอยกับสิ่งที่ได้รับทุกอย่าง ดื่มด่ำกับประสบการณ์ไอดอลอย่างเต็มที่
ออม: หนูแค่โฟกัสให้แต่ละวันมีความสุข ไม่อยากคาดหวังอะไรมาก ทำตัวเองให้พร้อมสำหรับทุกโอกาสที่เข้ามา มีความสุขกับมัน และอยากให้ทุกคนในวงมีความสุขไปด้วยกัน ในฐานะไอดอลคนหนึ่งก็อยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่มองมา ให้คนที่ติดตามเรามีความสุข
ความสำเร็จของวงพี่สาว BNK48 สร้างความกดดันให้วงน้องสาว CGM48 ?
ออม: ว่ากันตามจริงก็กดดันนะคะ ตอนแรกที่หนูย้ายมากับพี่รินะ แฟนคลับยังเรียกหนูว่า ออม BNK48 อยู่เลย ทั้งที่เราก็เป็น CGM48 มาได้สักพัก เราก็มีความรู้สึกในใจอยากให้คนรู้จักเราในฐาน CGM48 มากกว่า เราไม่ได้ภูมิใจที่คนยังเรียกชื่อเก่าเราอยู่ เลยตั้งความหวังมากๆ ที่อยากให้วงของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง พวกเราเต็มที่กับทุกผลงาน หวังว่าสักวันหนึ่งจะวงของพวกเราจะประสบความสำเร็จเหมือนกัน
ผลจากงานเจเนอรัล อิเล็กชัน (General Election) ครั้งที่ 3 (หรืองานเลือกตั้ง) เพิ่มความมั่นใจให้แก่สาวๆ CGM48 มากขึ้น
ฟอร์จูน: งานครั้งที่ 2 เป็นครั้งแรกที่พวกเรา CGM48 ลงแข่ง เรายังถือเป็นมือสมัครเล่นลองสนามเอาประสบการณ์ แต่ครั้งล่าสุดนี้เหมือนเป็นรอบจริงของพวกเรา พอเห็นผลที่เมมเบอร์ CGM48 ติดอันดับกันหลายคน ก็เริ่มรู้สึกว่าพวกเราไม่ได้มากันเล่นๆ นะ เรามีฐานความนิยมไม่น้อยเลย และการติดอันดับทำให้ได้โอกาสใหม่ๆ ยิ่งอันดับสูงก็ยิ่งมีโอกาสที่ดีกว่า เราจึงคาดหวังว่าการเลือกตั้งในปีหน้า CGM48 น่าจะทำผลงานได้ดีขึ้น อยากให้ติดอันดับกันทุกคน หวังว่าทุกคนจะสนับสนุนและพา CGM48 ไปต่อ
พิม: ต้องขอขอบคุณแฟนคลับจริงๆ ที่ซัปพอร์ตหนูตั้งแต่แรกจนติดเซ็มบัตสึ ถ้าไม่มีเขาเราก็ไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหน หนูรักแฟนคลับของหนูมากๆ อยากให้อยู่ด้วยกันนานๆ จนถึงวันสุดท้าย
วิธีเยียวยาตัวเองในวันเหนื่อยล้า
แองเจิ้ล: ไปเที่ยวค่ะ เชียงใหม่มีที่เที่ยวเยอะ แฟนคลับจะรู้ว่าพวกเราชอบไปคาเฟ่กัน หาอะไรหวานๆ กิน ช่วยคลายเครียดค่ะ
นีนี่: เวลาหนูนอยด์ชอบเข้าห้องน้ำอยู่กับตัวเองก่อน ทบทวนและเยียวยาตัวเอง จากนั้นค่อยออกมาคุยกับเพื่อน พอได้คุยเฮฮาหัวเราะด้วยกัน ก็สบายใจค่ะ
ฟอร์จูน: หนูชอบฟังเพลง ไม่ว่าจะฟังคนเดียวที่ห้อง คอนเสิร์ต หรือที่เขาแสดงดนตรี เรารู้สึกแบบไหนก็เลือกเพลงแทนความรู้สึกของเรา แล้วปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลงนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยก็มีเสียงเพลงที่เข้าถึงอารมณ์เราอยู่ ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
มามิ้งค์: ของหนูคือการเข้าป่า พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเพื่อเยียวยาจิตใจ อยู่กับลมหายใจปัจจุบันค่ะ
ออม: ของออมง่ายมากๆ เลยค่ะ คือการนอน วันนี้เหนื่อยจัง ไม่เป็นไร นอน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เช้าวันใหม่แล้ว
พิม: ของหนูคล้ายๆ พี่นี่ คือเริ่มแรกจะเข้าห้องน้ำไปอยู่คนเดียวก่อน จากนั้นต้องหาใครสักคนเพื่อระบาย หรือกอดแล้วร้องไห้ด้วย มีครั้งหนึ่งเครียดกับการเต้นเพลง Eien Pressure ผูกพันนิรันดร์ มีท่อนหนึ่งหนูวิ่งไม่แรงสักที พี่รินะก็บอกว่าต้องทำให้ได้มากกว่านี้ ดีกว่านี้ พอออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอแชมพู แชมพูถามเป็นอะไรรึเปล่า หนูร้องไห้เลยค่ะ ยิ่งมีคนเห็นแล้วเข้ามาปลอบก็ปล่อยโฮเลย (หัวเราะ)
เชียงใหม่ที่ CGM48 อยากแนะนำ
ฟอร์จูน: คาเฟ่แถวๆ แม่เหียะ ชอบบรรยากาศแถวไหน อยากให้ลองไปสัมผัสค่ะ
แองเจิ้ล: อาร์ทแกลเลอรีชื่อ ‘ใหม่เอี่ยม’ บรรยากาศชวนให้เคลิ้ม ได้เสพงานศิลป์ แล้วเครื่องดื่มกับอาหารที่นั่นก็อร่อยด้วย ไปกับเพื่อนแล้วถ่ายรูปเก๋ๆ หรือจะไปคนเดียวเงียบๆ อยู่กับตัวเองก็ได้
นีนี่: วัดพระธาตุดอยคำค่ะ ที่นี่ศักดิ์สิทธ์จริงๆ นะคะ หนูเคยขึ้นไปขอพรให้ติด CGM48 แล้วก็ติดจริงๆ
ออม: มาเชียงใหม่ก็ต้องขึ้นดอย ดอยอินทนนท์มีดอกซากุระเมืองไทย หน้าหนาวไปเดินเล่นเพลินๆ
พิม: หนูชอบเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตื่นตาตื่นใจมาก เคยให้อาหารยีราฟแล้วกลัวลิ้นยาวๆ ของมันค่ะ
มามิ้งค์: เชียงใหม่มีสถานที่เที่ยวธรรมชาติเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก หรือเดินป่า อยากเชิญชวนให้มาเที่ยวกัน ยิ่งตอนหน้าหนาวอากาศดีมาก หรือจะเที่ยวกาดมีของพื้นเมือง ของคราฟต์น่ารักๆ ค่ะ
คอลัมน์: เรื่องจากปก