เมื่อมีความฝัน ก็ต้องมีบันไดไว้ไต่ฝัน
ไม่ใช่แค่เอาฝันไว้บนฟ้า แล้วแหงนคอตั้งบ่า คิดว่าฝันคงหล่นลงมาหาจากฟ้าสักวัน
แต่เมื่อฝัน ก็ต้องมีบันไดไว้ไต่ไปสู่ความฝัน อาจจะขึ้นแค่ครั้งละขั้นสองขั้น แต่ถ้าทำอย่างนั้น สักวัน ฝันก็เป็นความจริง
เมื่อยังสร้างความยิ่งใหญ่ไม่ได้ ก็จงทำสิ่งเล็กๆ นี้ ที่อยู่บนหนทาง ที่จะนำไปสู่ความยิ่งใหญ่
เหมือนกำแพงที่สูงตระหง่าน ก็มาจากการนำอิฐมาเรียงที่ละก้อน
สิ่งเล็กๆ ที่สะสมต่อเนื่องยาวนานพอ ก็จะสร้างสิ่งใหญ่ๆ ได้
ความพยายามทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ ทำไป สักวันก็กลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้แน่นอน
คนที่วิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตรได้ คงไม่มีใครวิ่งวันแรกได้ 42 กิโลเมตรเลย
คนที่ทำได้จะผ่านการวิ่งในระยะทางสั้นๆ มาก่อน แล้วค่อยๆ สะสมจนกว่าจะได้ไกลขึ้น
จากวิ่ง 1 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 2 กิโลเมตร เป็น 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร ไปจนเป็น 20, 30, 40 กิโลเมตรในที่สุด
ร่างกาย กล้ามเนื้อ ระบบการหายใจ จะถูกปรับเปลี่ยนไป ให้รองรับการวิ่งระยะไกลได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นี่คือการ ทำแบบมีแผน มีขั้นตอน
เหมือนคนที่อยากประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เงินก็ไม่มี ความรู้ก็ไม่มาก แล้วอยู่ดีๆ จะประกอบธุรกิจเป็นเศรษฐีเลยก็คงไม่มีทางได้
ทำธุรกิจต้องใช้ทุนใช่ไหม แต่ถ้าไม่มีทุน ให้ใช้สิ่งที่มีไปก่อน
มีเวลาไหม ถ้ามี ก็หาเวลาเรียนรู้ ศึกษาธุรกิจที่สนใจ เพราะทำอะไรที่ไม่รู้ แล้วอันตราย
ไม่มีทุน แต่มีแรงไหม บางคนเอาตัวเข้าไปคลุกคลีอยู่ในธุรกิจนั้น ไปเป็นลูกจ้าง ไปเป็นพนักงาน เพื่อจะได้สังเกตเรียนรู้ ศึกษาความเป็นไปของธุรกิจนั้น ได้ทั้งเงินได้ทั้งวิชา
แล้วก็พยายามเก็บออมเงินไว้เพื่อลงทุนในธุรกิจในภายหลัง ถ้ามีไม่พอก็อาจจะระดมทุนหรือกู้ยืม จากแหล่งเงินทุนก็ว่ากันไป
จะเห็นได้ว่า อยากประสบความสำเร็จ ร่ำรวยในการทำธุรกิจ คือ เป้าหมายใหญ่ ซึ่งอยู่ดีๆ อาจจะทำไม่ได้
ส่วนการหาความรู้ เข้าไปคลุกวงในในธุรกิจนั้น เก็บออมเงินคือรายละเอียดเล็กๆ ที่อยู่บนเส้นทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้ในที่สุด
หรือใครอยากจะไปเรียนต่อเมืองนอก บางคนคิดไปก็รู้สึกเหมือนไกลเกินฝัน
เพราะเงินก็ไม่มี ภาษาก็ไม่ดี ความรู้ก็ไม่แน่น คิดแบบนี้ ก็ถอดใจ แค่จบในเมืองไทยก็บุญแล้ว
คือ ได้แต่ฝันใฝ่ แต่มีบันไดสู่ดวงดาว
ถ้าการคิดว่า การไปเรียนเมืองนอกเป็นฝันที่ใหญ่ ซึ่งยังทำไม่ได้ ก็ให้ทำสิ่งเล็กๆ ที่อยู่บนเส้นของความยิ่งใหญ่ดู
ไม่เก่งภาษา ก็หาหนังสือมาอ่าน เข้าคอร์สสอนภาษา ฟังจากยูทูบเพื่ออัปเกรดภาษาให้ดีขึ้นมา
วิชาการไม่แน่น ก็ทบทวนตำราให้กลับมาฟื้นฟูดังเดิม
หรือบอกว่าไม่มีทุนการศึกษา ก็พยายามสอดส่ายสายตาหาว่าที่ไหนเขาให้ทุน เมื่อมีจังหวะโอกาสก็ไปสอบชิงทุนกับเขา
ด้วยภาษาที่ถูกพัฒนา วิชาการที่แน่นขึ้น ก็มีโอกาสจะสอบชิงทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศได้ไม่ยาก เพราะรากฐานเล็กๆ ได้ถูกสร้างไว้หมดแล้ว
ดีกว่ามานั่ง ปลงสังเวชใจว่า การเรียนต่อต่างประเทศมันไกล เกินจริง
หรือใครที่ฝันอยากเป็นศิลปิน นักร้อง นักแสดง ก็อย่าเพิ่งไปคิดว่า ศิลปินนักร้องดารามีอยู่เต็มฟ้าเมืองไทย เราคงจะทะลุผ่านด่านขึ้นไปไม่ได้
สิ่งที่ต้องทำ คือ ทำสิ่งเล็กๆ บนเส้นทางอันยิ่งใหญ่
อาจจะเข้าชมรมศิลปะการแสดงของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
มีเวทีประกวดน้อยใหญ่ ก็ให้สมัครเข้าไปแสดงความสามารถ จะแพ้หรือชนะ ก็เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า มีเราอีกคนที่มีความสามารถและทำได้
หรือโพสต์ผลงานต่างๆ ลงในสื่อออนไลน์ ให้ชาวโลกเขาได้รู้เห็น ใครจะไปรู้ว่าเราอาจจะเข้าตาต้องใจใครสักคนก็ได้
ดีกว่ามานั่งทอดอาลัยว่าฝันที่เคยใฝ่ มันไกลเกินจริง
การเป็นดาวจะว่ายาก ก็ว่ายาก จะว่าง่าย ก็ว่าง่าย
อยากเป็นดาว ไม่ใช่แค่มองอยู่ไกลๆ แต่ต้องมี “บันไดไว้ไต่ดาว”
คอลัมน์: ก้าวไกลไปข้างหน้า
เรื่อง: จตุพล ชมภูนิช
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์