‘ขี้เกียจสันหลังยาว’ ก็ปานนั้น

-

ฉบับนี้จะเขียนถึงสำนวนซึ่งมีน้ำเสียงตำหนิติเตียนคนที่ไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงานต่ออีกสัก 2 สำนวนคือ “ขี้เกียจสันหลังยาว” และ “ตำข้าวสารกรอกหม้อ”

 

ขี้เกียจสันหลังยาว

“สันหลัง” เป็นส่วนของร่างกายด้านหลังที่มีกระดูกเป็นแนวนูนลงมาตลอดหลัง ปกติถ้าอยู่ในอิริยาบถนั่ง ยืน เดิน ฯลฯ สันหลังจะอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นจึงมีมาตรวัดเป็นส่วน “สูง” แต่ถ้าอยู่ในอิริยาบถนอนราบกับพื้นจะมีมาตรวัดเป็นส่วน “ยาว” ลักษณะอิริยาบถนี้จึงเป็นที่มาของสำนวน “สันหลังยาว” หรือ “ขี้เกียจสันหลังยาว”

“ขี้เกียจสันหลังยาว” เป็นสำนวนเปรียบที่ใช้ตำหนิคนเกียจคร้านที่ได้แต่นอน ไม่กระตือรือร้นที่จะลุกขึ้นทำการทำงานอะไร เช่นเมื่อลูกสาวมาบอกแม่ว่าอิสระขอเธอแต่งงานด้วย แม่อุทานเสียงสูงพูดว่า “หา! ขี้เกียจสันหลังยาวอย่างนั้นนั่นนะ คิดจะแต่งงานกับลูก แต่งไปแล้วจะเอาอะไรกินกัน ไม่เห็นทำการทำงานอะไรเป็นหลักเป็นฐาน แม่เขาเองยังมาบ่นให้แม่ฟังบ่อยๆ ว่า วันๆ ลูกชายได้แต่นอนเล่นโซเชียล”

ตำข้าวสารกรอกหม้อ

สมัยโบราณครั้งยังไม่มีโรงสีข้าวหรือเครื่องสีข้าว เมื่อจะหุงข้าวชาวบ้านก็ใช้วิธีนำข้าวเปลือกมาใส่ครก ซึ่งอาจเป็นครกกระเดื่องหรือครกไม้ที่ใช้สากตำ ครั้นตำจนข้าวเปลือกแตกแล้วจึงนำใส่กระด้งฝัดหรือร่อนเอาเปลือกออก ก็จะได้เป็นข้าวสารนำมากรอกหรือเทใส่หม้อหุงกินกัน บางคนก็ตำไว้ครั้งละมากๆ เพื่อเก็บไว้หุงกินได้หลายมื้อหลายวัน แต่บางคนแม้จะมีข้าวเปลือกเก็บอยู่มากก็นำมาตำแต่พอหุงกินเฉพาะมื้อเฉพาะวันเท่านั้น ถึงมื้อใหม่หรือวันใหม่ก็ค่อยตำอีก ไม่ได้คิดตำเผื่อไว้วันหน้า

สำนวน “ตำข้าวสารกรอกหม้อ” ถูกนำมาใช้เปรียบกับคนที่เกียจคร้าน ทำงานพอมีเงินใช้ไปวันๆ ทั้งๆ ที่มีงานให้ทำ เมื่อมีเงินพอใช้ก็หยุด แทนที่จะอดทนมุ่งมั่นทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเก็บออมเงินทองไว้ในอนาคต เช่น แม่ถามลูกชายซึ่งเป็นพนักงานขายประกันว่า ทำไมวันนี้ไม่ไปทำงานหรือจึงนอนตื่นสายจนเกือบเที่ยงวัน ลูกชายตอบว่าเมื่อวานขายประกันได้หลายรายแล้ว อีกสองสามวันจึงจะออกไปหาลูกค้าอีก แม่ขมวดคิ้วพูดว่า “เออ! ทำๆ หยุดๆ แบบตำข้าวสารกรอกหม้อไปวันๆ อย่างนี้ เมื่อไรถึงจะมีเงินเก็บนะ”

“ตำข้าวสารกรอกหม้อ” เป็นสำนวนที่ต่างกับ “ไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ” คือ “ตำข้าวสารกรอกหม้อ” ใช้กับคนที่มีต้นทุนหรือโอกาสดีแต่เกียจคร้าน ส่วน “ไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ” ใช้กับคนที่อับจนหรือยากไร้ เช่น ตอนหนึ่งมาลีปรับทุกข์กับอมราเพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียนสมัยเด็กที่ไม่ได้พบกันนานปีตอนหนึ่งว่า “ทุกวันนี้เราจนจนแทบจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว ตกงานมาเป็นเดือนๆ เพราะโควิด-19 นี่แหละ แฟนเราก็ไม่สบายนอนติดเตียง ลูกก็ต้องพักเรียนไว้ก่อน ยังมองไม่เห็นทางจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ได้ยังไงเลย”


คอลัมน์: คมคำสำนวนไทย

เรื่อง: ยุพร แสงทักษิณ

ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!