วันนี้ผมขอตอบคำถามรวบยอดเรื่องท้องอืดและลมในท้องแยะ
1.ถามว่าในคนปกติ ลมขนาดมหึมาในกระเพาะลำไส้มาจากไหนกัน ตอบว่ามาจากสามทางคือ(1) กลืนลมเข้าไปดื้อๆ เช่น ชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง ชอบดูดอาหารเหลวด้วยกล้องดูด (หลอดดูดอันโตๆ) ชอบดูดอาหารแท่งแบบอมแล้วดูด ชอบดื่มอะไรเร็วๆ อั๊ก อั๊ก อั๊ก หรือแม้แต่ฟันปลอมหลวมก็ทำให้กลืนลมลงท้องมากขึ้น (2) จากอาหารเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารในกลุ่มแป้งย่อยยาก เช่น โอลิโกแซกคาไรด์ (ในถั่วต่างๆ) กินเข้าไปแล้วมักถูกจุลินทรีย์ชนิดชอบทำงานครึ่งๆ กลางๆ ย่อยแล้วเกิดแก๊สทิ้งไว้ คนที่ท้องไม่อืดทั้งๆ ที่กินแป้งย่อยยากนั้น เป็นเพราะในลำไส้เขามีจุลินทรีย์ที่ถนัดย่อยอาหารกลุ่มแป้งย่อยยากได้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ อาการลมขึ้นก็จะน้อย (3) ทางเดินอาหารมีการเคลื่อนไหวน้อยอันเป็นผลจากการที่ร่างกายได้เคลื่อนไหวน้อย ร่างกายเราออกแบบมาให้ทำงานได้ดีขณะเคลื่อนไหวตลอดเวลาที่ตื่นอยู่ เมื่อหยุดเคลื่อนไหวก็เสร็จ
2. ถามว่ามีโรคหรือการเจ็บป่วยแบบที่ทำให้เกิดลมในท้องขึ้นมากมายบ้างไหม ตอบว่ามี แต่เกือบทั้งหมดแพทย์รู้เพียงชื่อโรค ทว่าไม่รู้วิธีรักษา เช่น
2.1 โรคในกลุ่มลมค้างในท้องแยะโดยหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งอาจเรียกว่าโรค irritable bowel syndrome (IBS) บ้าง functional GI disorder บ้าง โรคอาหารไม่ย่อย (functional dyspepsia) บ้าง เหล่านี้เป็นผลจากความล้มเหลวในการทำงานแบบสามประสานระหว่างลำไส้ จุลินทรีย์ กับสมอง (gut-microbiota-brain axis)
2.2 โรคจริงๆ ที่รู้สาเหตุและรักษาได้ เช่น (1) โรคขาดเอ็นไซม์ย่อยแป้งหรือน้ำตาล เช่น แล็กเทสไม่พอใช้ โรคย่อยฟรักโทสไม่ได้ (2) โรคซีลิแอ็ก (celiac disease หรือ sprue) ซึ่งเกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยากับโปรตีนในข้าวสาลีที่ชื่อกลูเต็น (3) โรคกระเพาะเคลื่อนไหวช้า (gastroparesis) (4) โรคลำไส้อุดตัน (gut obstruction) (5) โรคมีแบคทีเรียมากเกินไป (SIBO)อันนี้เป็นโรคยัดเยียด กล่าวคือหมอกลุ่มหนึ่งพยายามยัดเยียดโรคนี้เข้ามาในสารบบโรค แต่วงการแพทย์ทั่วไปยังไม่ยอมรับ
3. ถามว่าจะรักษาโรคท้องอืดลมขึ้นได้อย่างไร ตอบว่าเริ่มแรกให้ไปหาแพทย์โรคทางเดินอาหารเพื่อตรวจคัดกรองโรคในข้อ 2.2 ซึ่งรักษาได้ก่อน ถ้ารักษาแล้วไม่ได้ผลก็ให้ทดลองรักษาตัวเองเป็นขั้นตอนดังนี้ (1) งดกินนมและผลิตภัณฑ์นมเด็ดขาดสักหนึ่งเดือนเพื่อวินิจฉัยแยกโรคขาดแล็กเทส (2) งดกินรสหวานทุกชนิดหนึ่งเดือนเพื่อวินิจฉัยแยกโรคขาดฟรักโทส ถ้ากลัวขาดพลังงานก็ซื้อน้ำตาลกลูโคสกินแทนก่อน ครบเดือนแล้วประเมินผล (3) งดกินแป้งสาลีหนึ่งเดือนเพื่อแยกโรคซีลิแอ็ก (4) เปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้เสียใหม่ นี่เป็นการทดลองครั้งใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน วิธีทำคือเลิกกินเนื้อสัตว์ กินแต่พืช โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชที่ให้กากมาก ถึงจะมีแป้งย่อยยากแยะ รวมทั้งถั่ว งา นัต ธัญพืชไม่ขัดสี ก็กินให้หมด แต่เริ่มกินทีละน้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น กินอาหารหมักพวก probiotic รวมทั้งโยเกิร์ตด้วย ในช่วงนี้ห้ามกินยาปฏิชีวนะใดๆ ตอนทดลองใหม่ๆ คุณจะท้องอืดมากขึ้นปางตาย แต่ผมรับประกันว่าคุณจะไม่ตาย ให้ทนทดลองต่อไป และกินจนคุณขับถ่ายได้มากกว่าวันละหนึ่งครั้ง แล้วกินไปจนครบหกเดือน แล้วประเมินผล (5) บำบัดโรคเครียดให้ตัวเอง
คอลัมน์: สุขภาพ
เรื่อง: นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์