เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า

-

“ไม่มีใครกระโดดลงไปในแม่น้ำสายเดิมได้เป็นครั้งที่สอง เพราะมันได้ผ่านไปแล้ว

แต่ต่อให้กระโดดลงไปใหม่ได้ เราก็ไม่ใช่คนเดิม เพราะคนย่อมเปลี่ยนไป”

เมื่อโลกและวันเวลาเปลี่ยนไป คนก็ย่อมจะเปลี่ยนแปลง

ขึ้นอยู่กับจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หรือว่าแย่ลง

แน่นอนว่า ร่างกายย่อมมีการเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา ความแข็งแรงกระฉับกระเฉง จะให้เหมือนตอนหนุ่มสาว ย่อมเป็นไปไม่ได้

แต่คนก็ยังพัฒนา ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน ทั้งในเชิงความรู้ ทักษะ ความสามารถ ความชำนาญ และคุณงามความดี

และคนที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  1. มีเป้าหมายชัดเจน

รู้อย่างแน่ชัดว่า หนึ่งชีวิตที่เกิดมา อยากได้ อยากมี อยากเป็นอะไร

เช่น อยากเป็นคนที่ช่วยทำให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น อยากเป็นที่พึ่งของพ่อ แม่ และญาติพี่น้องให้ได้

อยากเป็นคนที่ใครๆ พูดถึงเรื่องความซื่อสัตย์ สู้ชีวิต

หรือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ก็เช่นอยากเป็นนักประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีชื่อเสียง อยากเป็นทนายความผู้อารีย์ และมีความเที่ยงธรรม

คนที่รู้ว่าตัวเองอยากเป็น อยากได้อะไร ที่ชัดเจนเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาส ได้สิ่งเหล่านั้น ได้มากขึ้น

เหมือนกับการยิงเป้า ต้องเห็นเป้าหมายอย่างเด่นชัด

แต่ถ้ายิงไป โดยไม่รู้ว่าเป้าอยู่ตรงไหน หรือมองไม่เห็นเป้าหมาย จะยิงในทิศทางที่ถูกได้อย่างไร

 

 

2.รู้ว่าต้องทำอะไร ถึงจะได้สิ่งนั้น

คือ เมื่อมีจุดหมาย แต่ไม่รู้วิธีไป ให้ถึงจุดหมายนั้น ก็ไม่มีวันไปถึงได้

ดังนั้น จึงต้องรู้ก่อนว่า ปัจจัยอะไร ถ้าเรามีจะทำให้เรา ได้สิ่งนั้นที่ต้องการ

ถ้ายังไม่มี หรือมีไม่ครบ หรือมีแต่ยังไม่สมบูรณ์ ก็ไปหามาใส่ เติมเต็มให้ได้

เช่น อยากจะไปเรียนต่อเมืองนอก นั่นคือเป้าหมาย ก็ต้องมาดูว่าการจะได้ไปเรียนต่อให้ได้ ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง

ต้องมีทุนการศึกษา มีค่าใช้จ่ายที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหารระหว่างศึกษา

ต้องมีวิชาความรู้ ที่สามารถไปสอบแข่งขันกับเขา เพื่อเข้าเรียนต่อในสถานศึกษาที่ต้องการ

และถ้าเป็นการเรียนต่างประเทศ ก็ต้องสามารถพูดอ่าน เขียน ในภาษาของประเทศนั้นๆ ได้ด้วย

สมมุติว่า ปัจจัยในการศึกษาต่อต่างประเทศ มีอยู่เท่านี้ ก็ให้มาดูว่า เรายังขาดปัจจัยด้านไหนไปบ้าง

เช่น ถ้าขาดเรื่องเงินทุน ก็ทำงานเก็บเงิน สำหรับการศึกษาต่อ หรือคอยดูว่าที่ไหน เขามีสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศในสาขาวิชา และประเทศที่เราสนใจบ้าง ให้ติดตามข่าวสารจากที่นั้นบ่อยๆ

ถ้าขาดความรู้วิชาการ เพราะจบมาเนิ่นนาน ก็ให้หมั่นทบทวนตำรับตำรา หาข้อสอบเก่าๆ มาฝึกทำบ่อยๆ

และถ้าความรู้ในภาษาต่างประเทศ เรายังไม่แข็งพอ ก็ให้ฟิตภาษานั้นๆ ขึ้นมา จะเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น ก็ขึ้นอยู่กับประเทศที่เราจะไปศึกษาต่อ

นี่คือกระบวนการ สร้างสะพาน หรือสร้างบันได ไต่ไปสู่ความฝัน

ให้ลงมือทำทันที แบบไม่มีข้ออ้าง เพราะมันก็คือการลงทุนให้ตัวเอง

  1. ยืนหยัดจนกว่าจะสำเร็จ

เมื่อทบทวนตำรา ฟิตภาษาต่างประเทศจนได้ที่ เวลาเขามีสอบแข่งขัน เราก็ไปสอบชิงทุนกับเขา ถ้าได้ก็ได้ ไปสมปรารถนา

แต่ถ้าไม่ได้ ก็ให้ยืนหยัดต่อไป แสดงว่าที่เราพยายามทำมานั้น มันยังไม่ดีพอ

ขณะเดียวกันก็อดออม กันเงินเพื่อการศึกษาต่อไป สักวันหนึ่งแม้เราสอบชิงทุนไม่ได้

แต่ถ้าเรามีเงินใช้จ่ายมากพอ เราก็ไปศึกษาต่อได้ ส่วนค่าใช้จ่ายระหว่างศึกษา ก็อาจจะไปหางานทำระหว่างเรียนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรจะเห็นได้ว่า คนสามารถพัฒนาได้ คนไม่เก่งก็สามารถพัฒนาความเก่งได้

คนทำผิด คิดกลับตัว กลับใจเป็นคนใหม่ ที่เป็นคนดีได้

อย่าตัดสินใคร แต่ภาพจำจากอดีตตลอดมา

เพราะคนเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา

เพราะเขาเชื่อว่า วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันวาน


คอลัมน์: ก้าวไกลไปข้างหน้า

เรื่อง: จตุพล ชมภูนิช

ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!