รักษาสมองเสื่อมได้สำเร็จด้วยการเปลี่ยนวิถีชีวิต

ในที่สุด งานวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างโดยแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบเพื่อดูผลของการเปลี่ยนวิถีชีวิตต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ชิ้นแรกก็ออกมาแล้ว งานวิจัยนี้เป็นผลงานร่วมของหลายสถาบัน รวมทั้งฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่แซนดีเอโก้, มหาวิทยาลัยดุ๊ก และสถาบันวิจัยอิสระเช่นคาโรลินสกี้และ PMRI ผลวิจัยเพิ่งลงตีพิมพ์ในวารสาร Alz Res Therapy ฉบับล่าสุด ซึ่งผมขอย่อมาให้ท่านได้อ่านกันดังนี้

งานวิจัยนี้ทำโดยสุ่มตัวอย่างผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ระดับต้น (MCI) แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มควบคุม ให้รักษาโดยใช้ยารักษาอัลไซเมอร์ตามปกติและใช้ชีวิตปกติ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มทดลอง ให้เปAlzheimer’sลี่ยนวิถีชีวิตแบบเข้มข้นโดยไม่มีการใช้ยาเลย แต่ให้ทำสี่อย่าง ได้แก่

(1) กินอาหารพืชเป็นหลักแบบใกล้สภาพธรรมชาติ (whole food plant based) ชนิดไขมันต่ำ โดยงดแอลกอฮอล์และน้ำตาลหรือสารทดแทนความหวานใดๆ อาหารที่กินได้มีแต่ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว นัต และวิตามินแร่ธาตุเสริมบางตัว ทั้งนี้ทีมวิจัยทำและส่งอาหารให้ถึงบ้านทุกมื้อ

(2) ออกกำลังกายถึงระดับหนักปานกลาง ควบคู่กับการเล่นกล้ามวันละอย่างน้อย 30 นาที

(3) จัดการความเครียดทุกวันด้วยวิธีเช่นนั่งสมาธิ ยืดเหยียด หรือตามดูลมหายใจ วันละอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

(4) บังคับให้เข้ากลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน (รวมทั้งคู่สมรสด้วย) ครั้งละ 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง

เขาทำการวิจัยอยู่นาน 20 สัปดาห์ แล้วประเมินผลโรคอัลไซเมอร์ด้วยตัวชี้วัดมาตรฐานที่ FDA อนุมัติให้ใช้ ซึ่งมีทั้งการประเมินด้วย CGIC, CDR-SB และ CDR-G พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสองกลุ่มในทั้งสามการประเมิน กล่าวคือ กลุ่มทดลองมีอาการสมองเสื่อมดีขึ้น ขณะที่กลุ่มควบคุมมีอาการเหมือนเดิมหรือแย่ลง เช่นในการประเมินด้วย CGIC พบว่ากลุ่มทดลองมีอาการกระเตื้องขึ้นร้อยละ 71 ขณะที่กลุ่มควบคุมไม่มีอาการกระเตื้องดีขึ้นเลย ในทางตรงกันข้ามในกลุ่มควบคุมพบว่ามีอาการแย่ลงร้อยละ 68 ผู้ป่วยหลายรายในกลุ่มทดลองที่ผลประเมินว่าอาการกระเตื้องขึ้น บางคนรายงานว่าเริ่มกลับมาอ่านหนังสือได้หลังจากอ่านหนังสือไม่ได้มานาน บางคนรายงานว่ากลับมาดูภาพยนตร์ได้อีกครั้งหลังจากดูไม่ได้มานานเพราะลืมว่าใครเป็นใครและเรื่องราวเป็นอย่างไร ผู้ป่วยที่เป็นผู้บริหารธุรกิจคนหนึ่งในกลุ่มทดลองเล่าว่าเขากลับมาจัดการบัญชีการเงินและการลงทุนของตัวเองได้อีกครั้งหลังจากสูญเสียความสามารถนี้ไปนาน 

ผลวิจัยนี้เชียร์อย่างแรงให้ผู้สูงอายุซึ่งสมองเสื่อมไปแล้วหันมารักษาตัวเองโดยการเปลี่ยนชีวิตด้วยสี่วิธีการข้างต้น

คอลัมน์: สุขภาพ

เรื่อง: นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์