4MIX ประกอบด้วยสมาชิกสี่คน ได้แก่ นินจา (25 ปี), แม็กก้า (20 ปี), โฟล์คซอง (20 ปี) และ จอร์จ (19 ปี) รวมตัวเป็นบอยแบนด์ที่ชูภาพว่าเป็นวง LGBTQ สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ด้วยคอนเซ็ปต์วงที่ไม่เหมือนใครจึงดึงดูดความสนใจ และทำให้บอยแบนด์วงนี้มีแสงสีเฉพาะตัวที่โดดเด่น แต่นอกเหนือจากภาพลักษณ์แล้ว เส้นทางของวง 4MIX ก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน เด็กวัยรุ่นผู้หลงรักการเต้น และแสวงหาทุกโอกาสเพื่อจะเข้าใกล้เส้นทางศิลปิน จนได้เปิดตัวในสังกัดเล็กๆ กับยอดวิวเอ็มวีที่ยังไม่ถึงหลักล้าน ใครจะคิดว่าอยู่ๆ เด็กวัยรุ่นจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะไปโดนใจแฟนๆ ฝั่งละตินอเมริกา ที่อยู่กันคนละทวีปหรือซีกโลกได้ ความนิยมจากนอกประเทศส่งผลให้คนไทยต้องหันกลับมามองว่าพวกเขาเหล่านี้คือใครกัน และเล็งเห็นความสามารถของบอยแบนด์ที่ไม่เคยอยู่ในสายตา ทุกอย่างกำลังไปได้สวยจนทั่วโลกเผชิญพิษโควิด-19 ค่ายเล็กๆ ของพวกเขาจำใจต้องยุติกิจการและบอกเลิกสัญญา 4MIX ตกที่นั่งลำบากและถูกตั้งคำถามว่า “จะเป็นยังไงต่อจากนี้” อย่างไรก็ตาม คนมีความสามารถ คนมีของ ย่อมมีหนทางไปต่อ 4MIX ก็เช่นเดียวกัน ไม่นานก็ได้สังกัดใหม่ซึ่งมองเห็นคุณค่าว่าไม่ควรปล่อยเพชรทั้ง 4 เม็ดนี้ให้ถูกทิ้งขว้าง ทำอะไรกันก่อนจะรวมตัวเป็น 4MIX นินจา: นินเป็นแดนเซอร์ให้ศิลปินทั้งไทยและเกาหลี แล้วก็แข่งเต้นทั้ง hip hop และ cover แต่ถ้าเล่าตั้งแต่เด็กเลย นินเป็นสายประกวดร้องเพลงมาก่อน ตอนอยู่ต่างจังหวัดถ้ามีใครมาเปิดออดิชันภาคอีสาน นินไม่เคยพลาด แต่พอเข้ากรุงเทพฯ โอกาสด้านการเต้นมีมากกว่าร้อง ช่วงหลังๆ จึงเห็นว่าเน้นเต้น แต่ไม่ว่าจะร้องหรือเต้นนินไม่เคยเรียนจริงๆ จังๆ ไม่เคยเข้าคอร์สหรือเรียนจากสถาบันสอนโดยตรง เราฝึกฝนด้วยตัวเองจากการเดินสายประกวดและทำกิจกรรมตั้งแต่เด็ก เวลาซ้อมเต้นก็เหมือนได้เรียนไปในตัว สิ่งที่คล้ายกับการเรียนที่สุดคงเป็นการได้ workshop 3-4 ชั่วโมง เล็กๆ น้อยๆ เวลาไปประกวดตามงาน เพิ่งจะมีโอกาสได้เรียนจริงจังช่วงก่อนเดบิวต์ครับ จอร์จ: ผมเป็นสายประกวดเหมือนพี่นิน ประกวดตั้งแต่ตอนอยู่ต่างจังหวัด เคยประกวด To Be Number One Idol เลยพอมีประสบการณ์เทรนร้องและเต้น มีเรียนตามคลาสบ้างครับ แม็กก้า: ผมไม่เคยประกวดเลยครับ เป็นสาย cover dance และก็ไม่เคยลงเรียนเหมือนกัน หัดด้วยตัวเอง ซึมซับจากการดูเขาเต้น ร้องเพลงก็เช่นกัน ผมเพิ่งเต้นจริงจังประมาณหนึ่งปีก่อนเข้าสังกัดเป็นศิลปิน โฟล์คซอง: โฟล์คเริ่มเต้นพร้อมแม็กก้า เจอกันวันแรกก็เต้นกับแม็กก้าครับ ฟอร์มวงเป็น 4MIX กันได้ยังไง นินจา: นิน แม็กก้า และโฟล์คซอง อยู่ทีมเต้นเดียวกันและรู้จักกันมาก่อน ตอนนั้นทางค่ายเขาเปิดรับออดิชันเพื่อหาเด็กเป็นศิลปิน เขาก็ทักมาที่เพจวง cover dance เรารู้ข่าวจึงชวนกันไปออดิชัน ปรากฏว่าผ่านทุกคน เลยได้อยู่ด้วยกัน จากนั้นจอร์จก็เข้ามาสมทบ ฝึกเกือบ 2 ปี จะเดบิวต์แล้วก็ถูกเลื่อนเพราะการระบาดของโควิด-19 ถึงจะยังไม่ได้เดบิวต์ พวกเราก็พยายามทำตัวเองให้เป็นที่รู้จัก เราเล่น Tiktok, YouTube ตัดต่อเอง คิดคอนเทนต์เอง พอคลิปไหนดังมีคนดูเยอะๆ นินก็เขียนไว้ว่า พวกเราคือวงบอยแบนด์ที่กำลังจะเดบิวต์ ทั้งที่ไม่รู้จะได้เดบิวต์ตอนไหนนะ (หัวเราะ) จนมีรายการหนึ่งซึ่งเชิญไอดอลมาโชว์ เขาเห็นคลิปพวกเรา จึงติดต่อเข้ามาอยากให้ไปโชว์ในรายการ เขาไม่รู้ว่าเรายังไม่ได้เดบิวต์ ยังไม่มีเพลงของตัวเองด้วยซ้ำ แต่เพราะรายการนั้นกระตุ้นให้เราได้เดบิวต์และมีเพลงที่เสร็จสมบูรณ์ไปออกรายการจนได้ เอกลักษณ์ของ 4MIX ที่แตกต่างจากวงอื่น แม็กก้า: น่าจะเป็นการแสดงสดมั้งครับ แฟนคลับมักทวีตว่าต้องมาดู 4MIX เล่นสดให้ได้นะ เพราะเราเล่นสุดฝีมือด้วยมั้ง เลยออกมาดี จอร์จ: เราลืมภาพลักษณ์ไปเลย แค่คนดูสนุกก็พอ อย่าหวังว่าจะมีรูปหล่อๆ หน้าแปลกๆ เป็นมีมทั้งนั้น (หัวเราะ) แล้วก็เรื่องคอนเซ็ปต์วงด้วย พี่นินจาเป็น LGBTQ การแสดงของเราจึงดูแล้ว unisex นอกจากตำแหน่งลีดเดอร์ของนินจาแล้ว มีกำหนดตำแหน่งอื่นไหม นินจา: เราไม่กำหนดว่าคนนี้ต้องร้อง คนนี้ต้องแรป อยากให้ทุกคนทำได้ทุกอย่าง เพราะถ้าต้องทำอะไรอย่างเดียวออกจะน่าเบื่อด้วย ในเมื่อเราเป็นนักร้องก็ควรทำได้ทุกอย่าง คนจะได้เห็นหลายๆ มุมของเรา แต่ถ้า visual หรือหน้าตาของวงก็มีแค่นินคนเดียว (หัวเราะ) แม็กก้า: แล้วถ้าอยากเป็น visual บ้างล่ะ นินจา: มันก็จะยากหน่อย (หัวเราะ) กระแสความนิยมในแถบละตินอเมริกานั้นเกิดขึ้นได้ยังไง นินจา: แคแรกเตอร์ของวงเราค่อนข้างไม่เหมือนใคร และการเป็นวง LGBTQ ค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบในฝั่งละติน ที่นั่นเขามีศิลปินแบบนี้อยู่เยอะ รวมกับสไตล์เพลงซึ่งไปถูกใจเขา เริ่มจากช่องดังทำคลิป reaction แล้วก็มีคนทำต่อๆ กัน เด็กวัยรุ่นฝั่งละตินก็เต้น cover เพลงของเราจนเป็นกระแส โฟล์คซอง: เราดีใจอยู่แล้วที่มีคนสนใจ งงนิดหน่อยที่เกิดขึ้นได้ยังไง เพราะอยู่ๆ ก็มีแต่คอมเมนต์ของชาวต่างชาติ คิดเป็นร้อยละ 90 ของคอมเมนต์ทั้งหมดเลย คนไทยยังไม่รู้จักเราด้วยซ้ำ การที่ 4MIX ชูคอนเซปต์เป็นบอยแบนด์ unisex สนับสนุน LGBTQ เจอกระแสหรือแรงต้านอะไรบ้าง นินจา: ตอนเปิดตัวก็โดนคอมเมนต์เยอะมาก ทำไมไม่แอ๊บ นี่วงอะไรจะไปรอดเหรอ ช่วงนั้นนอกจากเรื่อง LGBTQ ที่ยังใหม่ กระแสบอยแบนด์เกิร์ลกรุ๊ปก็ยังไม่แรงเท่าตอนนี้ คนจึงคิดว่าเดี๋ยวเดบิวต์แล้วก็หายไป ประกอบกับพอเห็นคอนเซปต์วงยิ่งงงกันใหญ่ บอยแบนด์ทำไมถึงมีแบบนี้ ใส่เสื้อผ้าอะไร แต่งตัวอะไร หน้าตาไม่เห็นดี แคแรกเตอร์น้องคืออะไร โดนวิจารณ์หนักมากในช่วงแรก แล้วความรู้สึกของแต่ละคนเป็นอย่างไร เมื่อทราบคอนเซปต์ของวง จอร์จ: จอร์จเข้ามาเป็นสมาชิกทีหลังสุด ตอนที่ได้นั่งฟังคอนเซปต์ จอร์จไม่รู้สึกกังวลหรือกลัวอะไรเลย เฮ้ย น่าสนใจออก เพราะในประเทศไทยยังไม่มีใครทำมาก่อน มันเป็นสิ่งใหม่ที่น่าลอง แม็กก้า: จริงๆ พวกเราคิดคอนเซปต์นี้ขึ้นเองด้วยครับ เราเสนอค่าย ตอนนั้นคิดว่าเสื้อผ้าไม่จำกัดเพศ สามารถแต่งตัวสไตล์ผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ เท่ดี ความเป็น unisex น่าจะเข้ากับพวกเรา นินจา: สำหรับนินการที่ไม่ต้องแอ๊บน่ะเหมือนยกภูเขาออกจากอก อย่างที่เล่านินเดินสายประกวดตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่ประกวดนินไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ตอนนั้นเราบอยสุดๆ บอยจ๋าๆ แอ๊บแบบยืนเกร็งเลย ทั้งที่นินชอบร้องเพลงมาก ชอบแสดง ชอบเต้น แต่ทำไมเวลาประกวดไม่มีความสุขเลย พอไม่สามารถโชว์ความเป็นตัวเองให้เห็นอย่างเต็มที่ จึงดูกั๊กๆ เกร็งๆ และไม่ประสบความสำเร็จดังหวัง จนมาเป็น 4MIX แม้ช่วงแรกจะโดนวิพากษ์วิจารณ์บ้าง เราก็พิสูจน์ตัวเองเรื่อยมา กระแสตอบรับก็ค่อยๆ ดีขึ้น จนนินสัมผัสได้ว่าคนเขารักเพราะเราเป็นเราจริงๆ สารภาพว่าแรกๆ ก็กังวลว่าแสดงออกได้แค่ไหน ทำอันนี้จะดีไหม ยังเกร็งๆ อยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอีกต่อไป นินกล้าลองทุกอย่าง แน่นอนว่าคนที่อคติกับพวกเราก็ยังมีอยู่ แต่เราไม่ใส่ใจแล้ว เมื่อนินจาเปิดตัวในฐานะ LGBTQ และวงเองก็พูดเรื่องเรื่องความหลากหลายทางเพศ สมาชิกคนอื่นจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงโดนคำถามว่าเป็น LGBTQ ทั้งวงรึเปล่า และส่งผลกระทบอะไรต่อสมาชิกบ้าง แม็กก้า: เราเฉยๆ กับกลุ่ม LGBTQ อยู่แล้ว ดังนั้นเวลามีคนมาถามหรือคิดว่าเป็นรึเปล่า ผมจึงไม่รู้สึกหรือแคร์อะไรครับ จอร์จ: แม้ว่ากลุ่มจะมีภาพลักษณ์ของการเป็น LGBTQ และแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็น แต่เราก็เป็นคนที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและการอยู่ร่วมกันในสังคม เราอยู่ร่วมกับพี่นินจาได้ ทุกคนก็อยู่ร่วมกันได้ นอกจากความเป็นวงไอดอล LGBTQ แล้ว อยากให้คนอื่นพูดถึง 4MIX ในแง่ไหนอีก นินจา: คนรู้จักเราในด้าน LGBTQ กันเยอะแล้ว และทุกคนรู้แล้วว่าเราสนับสนุนประเด็นนี้ ต่อจากนี้เราคงไม่เน้นการออกมาเรียกร้อง แต่แน่นอนว่าถ้ามีแคมเปญตามโอกาสเราก็จะเป็นส่วนหนึ่ง ทว่าคงไม่ได้ออกมาพูดทุกวัน อยากให้ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ ไม่ต้องมาเชิดชูฉัน ฉันก็เป็นคนคนหนึ่ง ทำอะไรก็ทำไป ใครไม่รักก็ช่างเขา ถ้าเราทำผลงานดี เป็นคนดีของสังคม ถ้าตาไม่บอดก็ต้องเห็น ต้องเปิดใจให้อยู่แล้ว จากนี้จึงอยากเน้นจุดเด่นของ 4MIX คือด้านการแสดงบนเวที และเน้นแคแรกเตอร์แต่ละคนให้ชัด เป็นที่จดจำ เพราะน้องๆ ก็โตกว่าเดิม มีความเป็นตัวเองชัดขึ้น และคุณภาพเพลง คุณภาพโชว์ก็ต้องดีขึ้น แน่นอนว่าการที่คนพูดถึงเราในฐานะวง LGBTQ กันเยอะ เราก็ภูมิใจ แต่ต่อจากนี้อยากให้คนพูดถึงเราในฐานะวงคุณภาพทั้งร้อง เต้น แสดง ควบคู่ไปด้วยค่ะ แล้วทะเลาะกันบ้างไหม จอร์จ: ทะเลาะครับ นินจา: ทุกวันเลยค่ะ จอร์จ: เรื่องของกิน (หัวเราะทั้ง 4 คน) แต่ตื่นมาก็หาย คุยเรื่องอื่น แม็กก้า: ผมไม่ทะเลาะกับใครครับ นินจา: ทะเลาะกับแม็กก้าไม่สนุก เขาไม่มีอารมณ์ร่วม (หัวเราะพร้อมกัน) แม็กก้า: รับฟังอย่างเดียวครับ จอร์จ: ผมจะทะเลาะกับโฟล์คซองบ่อย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโชว์ที่เอาความคิดของแต่ละคนมาแชร์กัน แต่สุดท้ายก็จบด้วยดี แต่ละคนประทับใจอะไรกัน โฟล์คซอง: แม็กก้าเป็นเพื่อนที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน พี่นินเป็นเหมือนผู้ปกครองคอยเตือนโฟล์ค จอร์จเป็นเพื่อนเล่นเกมครับ (หัวเราะ) เรื่องไร้สาระจะคุยกับจอร์จ จอร์จ: โฟล์คซองร้องเพลงเก่ง เสียงฟ้าประทาน แม็กก้าเวลาแสดงบนเวทีเขามีแนวทางของตัวเอง พี่นินจาประทับใจเรื่องความเป็นลีดเดอร์ แนะนำและดูแลน้องๆ เป็นอย่างดี แม็กก้า: ในเรื่องการทำงาน โฟล์คซองร้องเพลงเพราะ พี่นินจาเป็นคนกระตือรือร้น คอยหาอะไรทำเสมอ จอร์จก็เป็นคนขยัน เรียนด้วย ซ้อมด้วย ส่วนตัวผมเองก็… (โฟล์คซอง: มันกำลังจะบอกว่าตัวเองหล่อครับ [หัวเราะ]) นินจา: โฟล์คซองเป็นผู้รับฟังที่ดี ถ้าอยากระบายทุกข์หรือพูดโดยไม่คาดหวังการตอบกลับ ต้องเล่าให้โฟล์คซอง แม็กก้าเป็นคนที่ไว้ใจได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่บนเวที ไม่ว่าการแสดงจะสมบูรณ์แบบหรือไม่ แต่มั่นใจได้ว่าจะออกมาดีในสายตาคนดู ส่วนจอร์จมีความรับผิดชอบ ทำการบ้าน ไม่มีหาย ไม่มีสาย ไม่ต้องห่วง และสุดท้ายหนูประทับใจในหน้าตาของตัวเองค่ะ (ทุกคนหัวเราะพร้อมกัน) ช่วยเล่าถึงช่วงสุญญากาศที่ไร้สังกัด 4MIX ผ่านช่วงเวลานั้นได้อย่างไร นินจา: ต้องขอบคุณพี่กอล์ฟ ฟังกลิ้งฮีโร่ ที่ช่วยเหลือเราอย่างมาก พี่เขาเห็นเราแสดงแล้วชอบ อยากรู้จักว่าเราเป็นใครเลยชวนไปกินข้าว พวกหนูก็ได้เล่าว่าตอนนี้เป็นศิลปินอิสระ พี่พอจะช่วยพวกหนูหน่อยได้ไหม พี่กอล์ฟก็นำเรื่องเราไปเสนอพี่กึ้ง และพี่กึ้งก็สนใจ เราเลยได้มาอยู่ 411 Records สังกัดใหม่นี้ ตอนนั้นตื่นเต้นตกใจมาก โทร.บอกทุกคนบอสใหญ่คือพี่กึ้ง 411 เชียวนะ ไม่คิดว่าจะได้อยู่ค่ายใหญ่ขนาดนี้ จอร์จ: เพราะก่อนจะเจอพี่กอล์ฟนั้นเราเคว้งมากจริงๆ จะรับงานยังไง แล้วเพลงพวกเราล่ะยังสามารถร้องได้ไหม มีรับงานกันเองด้วย ต้องขอบคุณพี่กอล์ฟที่ช่วยส่งพี่ๆ สตาฟฟ์มาดูแล ถึงแม้จะเคว้งแต่ก็ไม่เคยคิดแยกวง ภาพจำเราคือ 4 คน แยกไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไร มีแฟนคลับบอกให้เราเปิด 4MIX Entertainment ดูเงินในบัญชีเราก่อน (หัวเราะ) ความจริงเราเป็นแค่เด็กเคว้งๆ 4 คน ไม่มีความรู้ความสามารถพอ และไม่มีเงินทุนที่จะทำกันเองได้ ช่วงเคว้งคว้างนั้น 4MIX ประคับประคองจิตใจกันอย่างไร จอร์จ: นอกจากตัววงที่ทำให้เรายังอยากจะสู้ไปด้วยกันแล้ว ส่วนตัวจอร์จไม่รู้สึกโดนบั่นทอนจิตใจ เพราะเป็นคนไม่คิดมาก ปล่อยให้จังหวะชีวิตพาเราไป แค่ทำหน้าที่ในทุกๆ วันให้ดีที่สุดครับ นินจา: นินพูดอยู่เสมอว่า นินมีความฝันเดียวคือการเป็นศิลปิน ไม่เคยอยากเป็นอย่างอื่นเลยตั้งแต่เด็ก แล้วนินก็สู้มากๆ กว่าจะมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศและเรื่องอื่นๆ พอได้เป็นศิลปินแล้ว นินพูดกับตัวเองเลยว่า ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่มีทางยอมแพ้ ต้องไปให้ถึงเป้าหมาย ไปให้สุด ไม่มีพัก เหนื่อย ท้อ ความตั้งใจของนินแรงกล้ามากจนไม่มีสิ่งใดทำเราท้อแท้ได้ แม็กก้า: ของผมคือแฟนคลับและครอบครัว เวลาเราได้เจอแฟนคลับก็เยียวยาใจเรา มีคนที่ยังรอดูอยู่นะ ส่วนครอบครัวก็สนับสนุนเต็มที่ พ่อชอบพูดว่า ไปทำให้เต็มที่ ถ้าไม่รอดก็กลับมารีดนมวัว พูดเล่นๆ นะครับ โฟล์คซอง: คล้ายกับแม็กก้า เวลาเห็นแฟนคลับให้กำลังใจก็มีแรงสู้ต่อไป แล้วโฟล์คไม่คิดว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องยอมแพ้ โฟล์คเชื่อว่าเดี๋ยวก็จะผ่าน เดี๋ยวปมก็จะคลาย การ reborn ครั้งนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไป นินจา: เราคิดกันว่าจะเปิดตัวยังไง เป็นการ comeback stage หรือเดบิวต์ใหม่เลย แต่ชื่อวงก็ใช้ชื่อเดิม เลยเป็นการ reborn ใช้คำนี้ดีกว่า แฟนๆ จะได้เห็นการพัฒนาขึ้นในทุกด้าน ทั้งโปรดักชัน ท่าเต้น ลุคของพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2023 นี้ เราจะลุยงานกันรัวๆ ไม่หายไปไหนแน่ ส่วนเป้าหมายไประดับโลกนั้นก็ยังเหมือนเดิม แต่นินมองโลกตามจริงมากขึ้น ก่อนหน้านี้เรามีความฝันและคิดแต่จะพุ่งไปเรื่อยๆ ให้ถึงเป้าหมาย จนมาเจอเหตุการณ์เปลี่ยนค่าย กลายเป็นศิลปินอิสระ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นินเลยไม่คิดแค่ทะยานไปอย่างเดียว เราเริ่มหาแนวทางให้วงมากขึ้น ไม่ยึดติดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อที่จะค่อยๆ เดินไปอย่างมั่นคงดีกว่า ปัจจุบันกระแสบอยแบนด์กำลังบูม 4MIX วางแผนรับมือการแข่งขันที่สูงขึ้นไว้ยังไง จอร์จ: พวกเราดีใจด้วยซ้ำที่มีเพื่อนๆ มาร่วมดันวงการ T-Pop ส่วนวงเรามีแนวทางเฉพาะตัวชัดเจนอยู่แล้ว ก็แค่พัฒนาตามแนวทางของเราให้ดียิ่งขึ้นครับ ทำตามหน้าที่ สู้กับตัวเองดีกว่า ปณิธานที่อยากทำให้สำเร็จในปี 2566 แม็กก้า: อยากเป็นพรีเซนเตอร์บ้างครับ อยากเห็นหน้าตัวเองบนโฆษณา โฟล์คซอง: อยากมีผลงานมากขึ้น นินจา: ปีนี้นินอยากไปให้ถึงเทศกาลดนตรีระดับโลกสักเทศกาล จอร์จ: อันดับหนึ่งคือลดน้ำหนักครับ ส่วนด้านผลงานอยากลองทำอะไรใหม่ๆ เช่น เดินแบบ เป็นโมเดล หรือว่าลองแต่งเพลงครับ เดือนแห่งความรัก มีใครหรืออะไรที่อยากบอกรักบ้าง แม็กก้า: รักทุกคนที่คอยอยู่เคียงข้าง แม้ผมจะตัวเล็ก แต่ความรักที่ผมมีให้คุณ มากกว่าโลกนี้อีกครับ งงไหม (หัวเราะ) โฟล์คซอง: รักแฟนคลับและคนที่กำลังจะเป็นแฟนคลับครับ รัก UNIX ทุกคน จอร์จ: ผมอาจจะเคยให้ความรักทุกคนไปแล้ว วันนี้ผมขอบอกรักตัวเองครับ สู้ๆ นินจา: ใช่ค่ะ ปีนี้หนูก็อยากบอกรักตัวเอง รักตัวเองก่อนที่จะไปรักคนอื่น พอรักตัวเองมากพอก็จะมีพลังไปรักคนอื่นต่อค่ะ ออล แม็กฯ ก็รักผู้อ่านทุกท่าน สุขสันต์เดือนแห่งเทศกาลความรักค่ะ
ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ TTA Space ชั้น6 MBK 097 994 7973