เป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งไปแล้ว กับกรณีของ “ยาดองมรณะ สูตรคางคก” เมื่อชาวบ้านกว่าสิบรายในจังหวัดชลบุรี ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เนื่องด้วยมีอาการแน่นหน้าอกและอาเจียน หลังจากชาวบ้านกลุ่มนี้ไปซื้อเหล้ายาดองมาดื่มกินกัน คนขายบอกว่าเป็นยาดองสูตรใหม่ เอาเหล้าขาวมาดองกับสมุนไพรรากสามสิบและคางคก แต่เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว กลับมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง มึนงง จับไข้ เดินแล้วล้ม จนในที่สุดมีผู้เสียชีวิตถึงสามราย
ตามปกติการดื่มเหล้าดื่มสุราย่อมมีผลเสียแก่สุขภาพของเราอยู่แล้ว การดื่มสุราเป็นประจำก็อาจจะเกิดอาการติดแอลกอฮอล์ขึ้นได้ ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้ร่างกายทรุดโทรม ขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่ยานพาหนะ ถ้าดื่มเป็นปริมาณมากเกินไปในเวลาอันสั้น ก็อาจเกิดภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษเฉียบพลัน ทำลายตับไต ระบบเลือดและสมอง จนอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ และถ้าเล่นพิเรนทร์เอาสุราไปดองผสมกับสัตว์มีพิษอย่างคางคก มาดื่มกินเพราะมีความเชื่อผิดๆ ว่าจะช่วยบำรุงร่างกาย หรือรักษาโรครักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์สนับสนุน ก็ยิ่งเป็นอันตรายมาก
“คางคก” เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในกลุ่มของกบ แต่มีต่อมน้ำเมือกอยู่ใกล้หู ซึ่งขับเมือกที่มีสารพิษร้ายแรงออกมา นอกจากนี้ยังมีสารพิษอยู่ที่หนังและเลือดอีกด้วย ผู้ป่วยจะมีอาการถูกพิษอย่างช้าๆ หลังจากกินคางคกเข้าไปหลายชั่วโมง เริ่มจากคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง รู้สึกวิงเวียน เห็นภาพเป็นสีเหลือง เริ่มสับสน เพ้อ ง่วงซึม จนถึงชักและหมดสติ หัวใจจะเต้นช้าลงและผิดจังหวะ และอาจถึงแก่กรรมได้เพราะว่าระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
นอกจากไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ระบุถึงสรรพคุณทางยาของคางคกแล้ว การจับเอาคางคกมาทำอาหาร แม้จะผ่านความร้อนหรือดองด้วยสุราแล้ว ก็ไม่อาจทำให้พิษคางคกหายไปได้ จึงไม่ควรเสี่ยงเอามาทำสุรายาดองดื่มกันเช่นนี้
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะผลการตรวจของทางโรงพยาบาลชลบุรีพบว่า ผู้ป่วยที่กินยาดองสูตรคางคกเข้าไปมีอาการหายใจล้มเหลว ภาวะเลือดเป็นกรดสูง ไตวายเฉียบพลัน เกลือแร่และน้ำในร่างกายเสียสมดุลจนเกิดความเป็นพิษขึ้นกับเลือดและสมอง ซึ่งเป็นลักษณะจำเพาะของคนที่รับสาร “เมทานอล” เข้าสู่ร่างกาย แสดงว่ายาดองสูตรคางคกนี้ไม่ได้ดองกับเหล้าขาวอย่างที่อ้างกัน แต่เป็นการดองกับเมทานอล ซึ่งเป็นสารพิษที่ใช้ในอุตสาหกรรมและห้ามนำมาบริโภค แต่เนื่องจากมีราคาถูกกว่าแอลกอฮอล์ที่บริโภคได้อย่าง “เอทานอล” จึงเป็นไปได้ว่าคนขายแอบเอามาใช้เพื่อลดต้นทุน
เมทานอล (methanol) หรือเมทิลแอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอล์ชนิดเชื้อเพลิง ที่เป็นตัวทำละลายสารต่างๆ ในงานอุตสาหกรรม และผู้ที่ดื่มกินเข้าไป เช่น สุราปลอม หรือเหล้าเถื่อนที่ต้มกลั่นกันด้วยการผสมเมทานอล จะเกิดภาวะพิษจากเมทานอลขึ้นได้ ตามปกติ เมื่อดื่มเมทานอลเข้าไป ร่างกายจะดูดซึมอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งชั่วโมง เมทานอลส่วนใหญ่ถูกกำจัดที่ตับ เอนไซม์แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนสจะเปลี่ยนเมทานอลเป็นสารฟอร์มัลดีไฮด์ (formaldehyde) แล้วเอนไซม์อัลดีไฮด์ดีไฮโดรจีเนสเปลี่ยนต่อเป็นกรดฟอร์มิก (formic acid) จากนั้นร่างกายก็ใช้เอนไซม์กลุ่มฟอเลตดีเพนเดนต์เปลี่ยนกรดฟอร์มิกเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งถูกกำจัดทางปอดไปกับลมหายใจ
แต่เนื่องจากร่างกายสามารถกำจัดเมทานอลได้ลำบากกว่าเอทานอล (ethanol) มาก (เอนไซม์แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนสกำจัดเอทานอลได้ดีกว่าเมทานอลถึงสิบเท่า) ดังนั้น ถ้าได้รับเมทานอลเข้าไปเป็นปริมาณมากในเวลาอันสั้น ร่างกายจะเกิดการสะสมของกรดฟอร์มิกสูงขึ้น และเกิดภาวะมีกรดสูงเกินไป
ผู้ป่วยที่มีภาวะพิษจากเมทานอลนั้น จะมีอาการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินอาหาร เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีระดับความเป็นกรดในเลือดสูง และจะมีอาการพิษทางดวงตา ซึ่งเป็นลักษณะจำเพาะของผลจากเมทานอล คือตาพร่า ตามัว แพ้แสง เห็นภาพขาวจ้า ร่วมกับอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ปวดหัว เวียนหัว อ่อนเพลีย มึนงง ถ้าได้รับเมทานอลเป็นปริมาณมากและรักษาไม่ทัน อาจหมดสติและชักได้ และมักจะเสียชีวิตในที่สุด
ข้อสันนิษฐานนี้สอดคล้องกับที่นักข่าวสัมภาษณ์ลุงปรุงยาดองคางคกขาย ก่อนหลบหนีไป ว่ายาดองของตนเองนั้นสั่งซื้อแอลกอฮอล์ที่ใช้เป็นส่วนผสมจากร้านค้าแห่งหนึ่ง และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ครั้งนี้ร้านค้าได้ส่งแอลกอฮอล์ผิดชนิด คือส่งแอลกอฮอล์ที่ใช้ผสมสีทาบ้านมาให้ ตนก็เอามาใช้ดองยาจนทำให้ลูกค้าเจ็บป่วย
จริงๆ แล้ว การเปิดซุ้มขายเหล้ายาดองกันนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นการลักลอบผลิตสุราเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมสรรพสามิตจับกุมดำเนินคดี ดังนั้น ต้องขอจดทะเบียนเป็นยาแผนโบราณกับองค์การอาหารและยาก่อน จึงจะสามารถผลิตและจำหน่ายตามตามร้านขายยาที่กำหนดได้ ไม่อย่างนั้น คงทำได้แค่เอาสุรามาดองกินกันเองในครัวเรือน แต่อย่าเผลอประมาทไปเอาสัตว์พิษ พืชพิษ หรือสารเคมีที่มีพิษอย่างเมทานอล มาดองกินกันแบบ “ยาดองสูตรคางคก” นี้อีกเชียว
คอลัมน์: คิดอย่างวิทยาศาสตร์ / เรื่อง: รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์