-๑๔-
………….
สมเจตต์ควงคู่อรพรรณไปคุยจ้อออกรายการเล่าข่าวรอบสอง ภายหลังที่ร่วมมือกันออกคำสั่งให้ช่างประเดิมเจาะกำแพงผนังตึกด้านหน้าลิฟต์ไปแล้วเป็นบางส่วน ส่งสัญญาณล้ำหน้าทางโรงแรมใหญ่ไปหนึ่งก้าว สมเจตต์อ้างมติประชุมเจ้าของร่วมที่ทุกคนพร้อมใจกันเสียสละทั้งผนังอาคารซึ่งสมบูรณ์ สวยงาม แข็งแกร่งมั่นคง และเงินส่วนตัวซ่อมแซมคืนกลับมา พร้อมทั้งลงขันกันเช่ารถสิบล้อเพื่อจะส่งหญิงสาวผู้มีเรือนร่างมหึมากลับถิ่นเกิดตามความประสงค์ของญาติพี่น้อง
น้ำเสียง แววตา และท่าทีของสมเจต์ดูราบเรียบประหนึ่งกรุ่นควันที่ลอยปากปากหม้อต้มน้ำซุป ไม่แฝงเล่ห์กลเลศนัยอื่นใด ทำตัวตามสบายโดยไม่สนใจว่ากำลังออกรายการถ่ายทอดสด และมีกล้องหลายตัวคอยจับภาพ
อาทิตย์ สุขประพฤติ ตั้งคำถาม “ทำไมถึงรีบเจาะล่ะครับ ทั้งที่ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจาซื้อขายตึก คุณรสนาก็ยืนยันมาแล้วว่าเธอมีความพร้อม”
อรพรรณโคลงหัวเบาๆ และยิ้มพราย “ใช่ค่ะ เราคุยกัน แต่ปัญหาการซื้ออาคารทั้งหลังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องทำความเข้าใจด้วยนะคะว่าคนตั้งใจที่จะขายอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่คนที่อยู่ตรงนี้มานานเหมือนบ้านของเขา คุณอาทิตย์ลองคิดดูนะคะ จะให้เขาย้ายไปอยู่ที่ไหน”
สมเจตต์เสริมขึ้นอีกว่า “อาคารทั้งหลังมีทั้งหมดสองร้อยสามสิบสองยูนิต ถ้าตัดห้องชุดของคุณสุพรรณิการ์ออกไปก็สองร้อยสามสิบเอ็ด ถ้าผู้ซื้อจะมาคิดคำนวณจากตัวเลขราคาต่อยูนิตอย่างเดียวคงไม่ได้ครับ อาคารมีพื้นที่ส่วนกลาง อาคารจอดรถ ที่ดิน และที่สำคัญ หากจะต้องอพยพกันแบบฉุกละหุก เจ้าของร่วมก็คงร้องเรียกร้องค่าขนย้ายเพิ่ม”
หากเป็นนักมวยทั้งสองก็ฟิตซ้อมสมบูรณ์ พกพาข้อมูลมมาเต็มพิกัด และเตรียมการรับมือสารพัดคำถามเป็นอย่างดี ดูเหมือนคราวนี้ทั้งสองประสบความสำเร็จในการออกสื่อ และจุดมุ่งหมายที่แฝงไว้ก็พุ่งตรงสู้เป้าประสงค์อย่างแม่นยำ
สำหรับสมเจตต์ในฐานะผู้จัดการใหญ่ เขาทำงานในบริษัทรับบริหารอาคารชุด ถูกส่งตัวมาดูแลชื่นสุข คอนโดมิเนียม เช่นเดียวกับบริษัทรับทำบัญชีอีกแห่ง แม้เผลอทำตัวเป็นเจ้าของตึกในบางครั้ง แต่ยามที่อยู่ต่อหน้าอรพรรณ สถานะของเขาก็เหมือนลูกจ้างอีกคนหนึ่ง
อรพรรณ นิลเขียวมักยืนยันสถานะและอ้างว่าพูดในนามเจ้าของร่วม (อีกคนหนึ่ง) อีกห้าสิบเก้าห้องชุดซึ่งเจ้าของโครงการคงไว้ให้เช่า เป็นสมบัติเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ที่ใส่ชื่อเอาไว้แทบไม่ซ้ำคน เป็นวิธีการครอบงำและสืบทอดอำนาจซึ่งเจ้าของโครงการปฏิบัติต่อเนื่องมาซ้ำๆ กับอาคารชุดแห่งอื่น พวกเขาใช้จ่ายเงินเจ้าของร่วมจ้างบริษัทบริหาร แม่บ้านทำความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัย ช่างซ่อมบำรุง และอื่นๆ ขณะทรงไว้ซึ่งอำนาจเหมือนยังเป็นเจ้าของไปชั่วอายุขัยของอาคาร
อรพรรณไม่เคยสมัครลงเลือกตั้งเป็นกรรมการ หล่อนไม่ได้มีสถานะตำแหน่งใดเลยนอกจากเจ้าของร่วมธรรมดาในฉากหน้า ทว่าลึกลงไป หล่อนควบคุมเสียงทั้งหมดในบรรดาห้องเช่าซึ่งเจ้าของโครงการคงไว้ ตำแหน่งหน้าที่การงานหล่อนก็ควบทั้งสถานะผู้ถือหุ้นคนสำคัญและตำแหน่งบริหาร ในที่ประชุมเจ้าของร่วมทุกครั้ง ดูเหมือนทุกคนจะต้องยอมตามความต้องการของหล่อนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ
หล่อนเป็นคนถามความเห็นของคนอื่นและโน้มน้าวเจ้าของร่วมอื่นๆ ในที่ประชุมครั้งล่าสุด “ใครอยากขายก็จะได้ขายคราวนี้แหละ ใครอยากอยู่ต่อก็คงลำบากหน่อย เพราะคอนโดฯ หลังนี้กลายเป็นบ้านผีสิงไปแล้ว ขืนอยู่ไปนานแล้วคิดจะขายต่อราคาก็ตกฮวบ ลงแจ้งความในหนังสือบ้านเป็นปีก็ขายไม่ออก ตอนนี้มีคนจะมาซื้อยกตึกทั้งหลัง ใครไม่ขายก็โง่…”
วาทะแห่งการโน้มน้าวเติมความเข้มลงไปหมดไม่หยุด “ถ้าจะขาย เราต้องมีความเห็นเดียวกัน ขืนขัดแย้งประสานงามันก็จะกลายเป็นช่องโหว่ให้คนซื้อกดราคาเอาได้”
เบื้องแรกอรพรรณต้องการมติเอกฉันท์ ครั้นสมประสงค์ตามที่ต้องการแล้ว หล่อนดำเนินการโน้มน้าวในขั้นต่อมา
“เราต้องเล่นตัวสักหน่อยหนึ่ง ขืนไปออกอาการอยากขายจนตัวสั่น ราคาหายไปหลายแสนทีเดียว ฉันกับคุณสมเจตต์ขอสิทธิ์ดำเนินการเพื่อให้ทุกท่านได้ราคาดีที่สุด รับรองเงินในกระเป๋าเจ้าของร่วมทุกคนจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยก็สี่ห้าแสน…”
เท่านั้นยังไม่พอ ความคิดและการวางแผนอันเจิดจรัสของหล่อนยังไปต่อได้อีก “พวกคุณรู้ไหม คนที่ซื้อตึกได้ทั้งหลังไม่ธรรมดาหรอก ถ้าเราวางเงื่อนไขดีๆ สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำเป็นเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยเข้าหน่อยเดียว เดี๋ยวคนซื้อก็จัดหาคอนโดฯ ใหม่ให้เราในราคาพิเศษ”
สุจิตต์ เลิศบุญญาธิการ ให้สัมภาษณ์อาทิตย์ สุขประพฤติด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาไม่มีปัญหาใดเลยหากญาติผู้ตายจะปฏิเสธความช่วยเหลือที่เขาหยิบยื่น นั่นเป็นสิทธิส่วนบุคคล หรือแม้แต่จะเลือกทางเดินอีกสายเพื่อจะอยู่ยงเป็นอมตะ นั่นก็ขึ้นอยู่กับการติดต่อและทำข้อตกลงร่วมกัน
นักธุรกิจใหญ่อดีตรัฐมนตรีให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า ที่เขาเสนอทางเลือกออกไป ไม่ใช่เพราะต้องการกอบกู้ชื่อเสียงที่เคยถูกมองว่าไม่มีน้ำใจ ปฏิเสธคำร้องขอของญาติผู้ตายในตอนแรก เพราะแท้ที่จริงแล้ว ไม่เคยมีใครส่งคำร้องขอมาถึงตัวเขา
ช่างฝีมือเยี่ยมที่เขาว่าจ้างพร้อมจะเจาะผนังห้องออกสู่ระบียง กำลังคนที่จะยกศพใส่หีบเหล็กแข็งแกร่งก็พร้อมสรรพเช่นเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์ที่เขาเช่าไว้ก็พร้อมออกเดินทางทันทีที่ได้รับคำสั่ง
อาทิตย์ สุขประพฤติ ยิงคำถามไปว่า “ได้พูดคุยตกลงกับคุณสมพลพ่อของผู้ตายแล้วหรือยังครับ”
สุจิตต์ตอบทันที “ผมเคยให้ผู้จัดการโรงแรมไปเยี่ยมถึงห้องชุด เขาก็ได้รายงานขนาดศพของผู้ตาย และก็ได้คุยกับคุณสมพลกับลูกสาวเป็นเบื้องต้นแล้ว”
อาทิตย์รุกต่อด้วยอีกคำถาม “ทำไมต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ ไม่ใช้รถ”
สุจิตต์ยิ้มก่อนตอบด้วยเหตุผลของการเดินทางที่รวดเร็วกว่า และนักธุรกิจหูตากว้างไกลอย่างเขาละเอียดรอบคอบเสมอมา จากการสำรวจพื้นที่ของสวนดอกไม้บ้านเกิดของสุพรรณิการ์ เป็นลานโล่งที่เฮลิคอปเตอร์สามารถลดระดับต่ำจนวางหีบศพลงบนเนินแห่งนั้นอย่างนุ่มนวล
ทำไมไม่ใช้รถบรรทุก ไม่เพียงเหตุผลของการลดเวลาเดินทางให้สั้นลง สุพรรณิการ์เป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ หลังการหลับใหลอันยาวนานในห้องชุดบนชั้นแปด วันเดินทางกลับของเธอยอมเป็นข่าวใหญ่โต สื่อมวลชนทั้งไทยและเทศยกทัพกันมาทำข่าว และทีวีหลายช่องจะต้องพร้อมกันถ่ายทอดสด ทั้งจากพื้นดินและสูงขึ้นไปด้วยมุมมองของนก เลนส์มุมกว้างจับภาพเบื้องล่าง โรงแรมของเขาก็จะได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองผ่านสื่อโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากอาณาบริเวณกว่าสองร้อยไร่ และตึกสูงใหญ่อันเป็นที่พักหลักแล้ว ภาพความร่มรื่นใต้เงาไม้ริมแม่น้ำ ช่อดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ร่วงเกลื่อนลอยไปตามกระแสน้ำอันเอื่อยช้า กังหันลม สวนหย่อม ลานดนตรี มุมบาร์ และทัศนียภาพสวยงามที่น่าพักผ่อนด้านอื่นๆ
นั่นเป็นเพียงทางเลือกที่สุจิตต์ เลิศบุญญาธิการ สำรองไว้เป็นอันดับสอง หากพันธะสัญญาซึ่งเขาให้ไว้กับรสนา บรู๊คถูกล้มเลิกไป
หากบ้านสุพรรณิการ์เกิดขึ้นได้จริง นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลั่งไหลกันมาเยี่ยมชม หรือคารวะมนุษย์มหัศจรรย์ โรงแรมซึ่งพวกเขาสะดวกที่สุดก็อยู่ไม่ไกล
ขาดเหลือมากน้อยแค่ไหน เขาสัญญาไว้ลับๆ กับรสนาและทีมงานของหล่อน เขาจะถมเงินจำนวนนั้นลงไป
นักธุรกิจสาววัยห้าสิบสองจ้อผ่านรายการเล่าข่าว อุปสรรคทุกประการกำลังจะล่าถอยไปจากเส้นทางดำเนินการ ไม่ว่าเงินทุน หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซียซึ่งหล่อนติดต่อประสานงานเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ตอนนี้หล่อนประสานกับทางตัวแทนเจ้าของร่วมให้ระงับทีมช่างซึ่งได้เจาะแผลแรกบนผนังไปแล้ว เพราะอาคารแห่งนั้นกำลังจะเป็นบ้านถาวรของสุพรรณิการ์ ไม่ใช่ของพวกเขาอีกต่อไป
“เรากำลังจะรักษาสิ่งมหัศจรรย์เอาไว้อวดโลก เราคือประเทศแหล่งกำเนิดมนุษย์ที่รูปร่างใหญ่โตกว่าใครทั้งหมดทั่วปฐพี ในแต่ละปีมีผู้คนจากทุกมุมโลกเดินทางไปคาวระประธานเหมา เลนิน และโฮจิมินห์จำนวนเท่าไหร่ ดิฉันคำนวณดูแล้ว เอาทั้งสามส่วนนั้นมาคูณกัน ยังไม่เท่ากระแสผู้คนที่เดินทางลัดฟ้ามาสู่บ้านสุพรรณิการ์”
บ้านพิพิธภัณฑ์ใหญ่ที่สุดในโลก หญิงสาวในกล่องแก้วบางใสรูปร่างใหญ่โตที่สุดเท่าที่โลกเคยมี ใบหน้าของเธอเอิบอิ่มยิ้มละไมเหมือนเจ้าหญิงนิทราซึ่งกำลังฝันถึงเจ้าชายจากแดนไกล ไม่มีใครคาดหมายได้ว่าเรือนผมสวยสยายซึ่งงอกยาวขึ้นตามกาลเวลาจะเปลี่ยนสีอีกเมื่อไหร่ น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีในบางภูมิภาคของประเทศเมืองหนาว เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจพบเห็นได้จากที่ไหนบนผืนปฐพี
ขณะรสนาร่ายมนต์ความฝันของหล่อนผ่านรายการเล่าข่าว สามพ่อลูกนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ สมพลตระหนักมานานแล้วว่าลูกสาวของแกตอนนี้กลายเป็นของคนอื่น และเธอก็โบยบินจากห้องชุดที่ยังต้องผ่อนธนาคารอีกหลายปี ชมนาดคิดตามคำฝันของรสนา พยายามงัดง้างด้วยหลักวิทยาศาสตร์ถึงความยืนยงคงอยู่ของสภาพร่างกาย ครั้นแล้วภาพเส้นผมที่เปลี่ยนสีไปของพี่สาวก็ผ่านเข้ามาในห้วงคิด รวมทั้งรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเดิม โลกที่เธอเห็นตอนนี้บางเรื่องราวไม่ได้ยืดโยงหรือผูกติดกับหลักการและเหตุผลไปเสียทั้งหมด
แววตาที่เหมือนน้ำนิ่งของพวงชมพูจ้องจอโทรทัศน์ หูของเธอสดับฟัง เธอรู้และเข้าใจสิ่งที่รสนาพูด พร้อมกับวาดภาพตาม พลันนิทานเจ้าชายเจ้าหญิงซึ่งพี่สาวเคยเล่ากล่อมก็ฉายภาพให้เห็นอีกครั้งในห้วงคะนึง
ณพชัยดูรายการเล่าข่าวในอีกมุมหนึ่งของเมือง ทุกครั้งที่ชมนาดโทร.มาปรึกษา เขาตอบด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายที่สุด คนอื่นจะคิดจะทำอะไรเป็นเรื่องของเขา แต่จะเลือกหรืออนุญาตให้ใครนั้น เป็นสิทธิ์ของเรา
รสนากล่าวทิ้งท้ายก่อนที่ภาพของเธอจะหายไปจากจอโทรทัศน์
“ทุกอย่างพร้อมแล้ว หากเจ้าของร่วมและตัวแทนการเจรจาไม่เล่นแง่จนทำให้เรื่องล่าช้าออกไป”
เพลงจักจั่นยังคงกังสดาลในยามเที่ยงวัน ชมพูพันธุ์ทิพย์บางต้นสลัดดอกร่วงลงเหลือเพียงกิ่งก้านเปลือยเปล่า ช่อดอกที่ร่วงทิ้งเกลื่อนพื้นซีเมนต์ไม่นานก็ถูกกวาดต้อนสู่ถังขยะ ฤดูร้อนในเมืองเดินหน้าความอำมหิตของมันเรื่อยไป
เสียงเจาะผนังดังขึ้นเพียงครั้งเดียวแล้วก็เงียบหายไป ณพชัยบอกกับสมพลว่า ในส่วนนั้นเป็นเรื่องมติของที่ประชุมร่วม ขณะผนังห้องอย่ายอมให้ใครมาเจาะจนกว่าเราจะตกลงใจว่าจะให้ฝ่ายไหนจัดการ
ช่วงบ่ายทางโรงแรมติดต่อมาว่าฝ่ายช่างจะนำแผ่นเหล็กและโครงหีบศพทั้งหมดเข้ามาประกอบในห้อง ชมนาดโทร.หารือณพชัยครู่เดียวก็วางสาย เอ่ยถามพ่อแล้วค่อยโทร.กลับไป แล้วเพียงไม่ถึงสองชั่วโมงหลังจากนั้น ช่างจากทางโรงแรมจำนวนสิบสองคนก็ปะทะกับชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ตรงมุมทางแยกกลางซอย
สองฝ่ายไม่เพียงตะลุมบอนกันด้วยหมัดเท้าเข่าศอก เครื่องมือช่างและท่อนไม้ข้างทางที่พอหยิบคว้าได้ก็ประเคนใส่กันอย่างไม่ยั้ง กว่าตำรวจจะมาถึงและหย่าศึกได้สำเร็จสองฝ่ายก็หัวร้างข้างแตก และเลือดนองส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วถนนซอย
สื่อโทรทัศน์นำเสนอภาพข่าวที่เกิดขึ้น ทั้งศึกตะลุมบอนและรอยเลือดภายหลังเหตุการณ์จบลง เสริมด้วยภาพวิดีโอที่มือสมัครเล่นถ่ายไว้ เจาะลึกถึงสาเหตุหลัก จากนั้นอีกหลายสื่อก็โหมประโคมสงครามแย่งศพระหว่างเจ้าของโรงแรมใหญ่และฝ่ายบริหารคอนโดมิเนียม
สมเจตต์และอรพรรณ เผชิญหน้ากับสุจิตต์ เลิศบุญญาธิการในหน้าสื่ออีกรอบ ต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นตัวต้นเหตุให้เกิดความขัดแย้ง บานปลาย และเลือดตกยางออก
อรพรรณกล่าวในช่วงสุดท้ายว่าหากจะต้องแย่งชิงกับคนอื่นในการเสนอน้ำใจนำพาศพของหญิงสาวกลับคืนบ้านเกิด หล่อนขอรับข้อเสนอของคุณรสนาดีกว่า แม้ว่าลูกบ้านหรือเจ้าของหลายครอบครัวจะต้องย้ายออกจากที่อยู่อาศัยอย่างทุลักทุเลก็ตาม
สุจิตต์ เลิศบุญญาธิการได้ทีฉวยโอกาสทิ้งท้ายเช่นเดียวกัน หากเขาจะมีส่วนทำให้ประเทศบังเกิดสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลก และบ้านพิพิธภัณฑ์แปลกใหม่กว่าสถานที่อื่นใดทั้งหมด ถ้าคุณรสนาขาดเหลืออะไรที่ไม่อาจหาได้จากคนอื่น ต้องการเงินอีกกี่ล้านบาท เขาก็ยินดีจะเติมส่วนนั้นลงไป
ทั้งสองให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการเล่าข่าวในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ปลายเดือนมีนาคม ค่ำคืนวันเดียวกันนั้นเองตอนหนึ่งทุ่มตรง พลเอก ศรุต ไกรประเสริฐ หัวหน้าคณะ คคส. ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนานถึงสิบแปดปีก็ออกรายการ “วันคืนชื่นสุข” ตามปกติ
คคส. ย่อมาจาก “คณะควบคุมความสุขแห่งชาติ” ลงมือก่อการทำรัฐประหารด้วยเหตุผลที่แปลกไปจากคณะอื่นๆ ในอดีต จากความสุขอันล้นเกินของชนชั้นนำที่อาจเลยเถิดไปจนเสียสติ หรือแทบวิปลาสดัดจริตกันจนกู่ไม่กลับ ขณะเดียวกันคนชั้นล่างยากจนก็ปราศจากความสุขจนสถิติการฆ่าตัวตายรายวันสูงขึ้นไม่หยุด คณะทหารซึ่งห่วงใยประเทศชาติและประชาชนเสมอมาจึงต้องเข้าควบคุมสถานการณ์อีกครั้ง ออกกฎหมาย ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และอำนาจพิเศษก็เข้มข้นขึ้นตามตัวเลขกฎหมายเด็ดขาด
พลเอก ศรุต ไกรประเสริฐทำรัฐประหารครั้งแรกเมื่อสิบแปดปีก่อน ในนามของคณะระงับความขัดแย้งแห่งชาติ หรือ ครง. ผุดกฎหมายมาตราพิเศษ ม.49 มารองรับการบริหารงานที่รวดเร็วและเฉียบขาด
ระงับความขัดแย้งยาวนานถึงเจ็ดปีถึงเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งทั่วไป แม้พรรคตัวแทนของคณะ ครง.จะแพ้การเลือกตั้ง แต่ด้วยความวิตถารของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ พลเอกศรุตหวนคืนสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างไม่ยากเย็นนัก
นายทหารที่ไม่เคยชินต่อการถูกซักฟอกในสภา รัฐบาลสืบทอดอำนาจบริหารประเทศได้ไม่นาน พลเอก ศรุตและคณะก็ทำรัฐประหารตัวเอง ในนาม คยส. หรือคณะยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งชาติเพิ่มความเข้มให้กับกฎหมายพิเศษเป็นมาตรา 59
รัฐบาล คยส. บริหารประเทศยาวนานถึงหกปี รัฐธรรมนูญใหม่ถูกร่างขึ้น แต่การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นถูกล้มไปด้วยผลรัฐประหารตัวเองอีกครั้งของ พลเอก ศรุต ในนามของคณะควบคุมความสุขแห่งชาติ หรือ คคส. พร้อมเพิ่มดีกรีความเข้มยิ่งขึ้นด้วย ม.69
ตอนนี้ พลเอกศรุต ไกรประเสริฐ ก็ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมายาวนานเกือบย่างเข้าสู่ทศทศวรรษที่สอง
รายการวันคืนชื่นสุข ทุกวันอาทิตย์ พลเอก ศรุตร่ายยาวแบบเดี่ยวไมโครโฟนอย่างเมามันตลอดสามชั่วโมงเต็ม แม้ประชาชนค่อนประเทศจะถือว่าเป็นช่วงเวลาประหยัดไฟ นอกจากจะชิงปิดทีวีช่วงหนึ่งทุ่มตรงแล้ว บางรายเป็นเอามากถึงขนาดถอดปลั๊กและสับคัทเอ้าท์ ถึงกระนั้นหัวหน้าคณะ คคส.ไม่ได้รู้สึกเขินอายที่จะร่ายมหากาพย์ของเขาเรื่อยไป และวันนี้เรตติ้งของเขาดูจะสูงขึ้นแบบผิดธรรมชาติ
พลเอก ศรุตกล่าวถึงสุพรรณิการ์ซึ่งรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงหลายคนเคยแวะไปดูแลปัญหา แน่นอน ข้าราชการในยุครัฐบาล คคส. ไม่เคยนิ่งนอนใจไม่ต่อความสุขทุกข์ของราษฎรทุกหมู่เหล่า แล้ววันนี้ก็เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างเอกชนสองกลุ่ม และมีอีกบางกลุ่มที่คิดจะทำในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“เราไม่ใช่รัสเซียหรือเกาหลีเหนือ และคุณสุพรรณิการ์ก็ไม่เคยเป็นผู้นำประเทศอย่างโฮจิมินห์ มันเป็นไปไม่ได้ อย่าได้บังอาจคิดจะทำในเรื่องที่ไกลเกินตัว”
ผู้นำประเทศที่มาจากรัฐประหารและอยู่ยงด้วยแผนยุทธศาสตร์แห่งการควบคุมความสุขอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลพูดด้วยน้ำเสียงขวานผ่าซากตามถนัด เขายังคงแต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศ เสียงกร้าวอย่างไม่ปรานีต่อหูของคนฟัง และแววตาก็คงไว้ซึ่งความดุดัน เขารู้ว่าคนทั้งประเทศส่งใจช่วยให้สุพรรณิการ์ได้กลับคืนบ้านเกิด และก็จะมีความสุขร่วมกันเมื่อได้เห็นภาพแห่งความสมหวัง คคส. ไม่อาจหลีกเลี่ยงภารกิจซึ่งเป็นความสุขของประชาชน
“ผมขอใช้มาตรา 69 สั่งให้กองทัพอากาศ ประสานงานกับกองทัพบก ภารกิจนี้คงใช้กำลังพลไม่มาก แค่ยี่สิบสามสิบคน เฮลิคอปเตอร์เพียงสองลำก็น่าจะพอ ส่วนสื่อมวลชนอื่นๆ ไปทำข่าวได้ตามปกติ และทางรายการโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ก็จะถ่ายทอดสดตั้งแต่เฮลิคอปเตอร์ร่อนลงไปรับศพ ดำเนินการเรื่อยไปจนกระทั่งส่งคุณสุพรรณิการ์ถึงบ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อย…”
……………………………………
อ่านทุกตอนคลิ๊กที่รูป