◊ แผนพิฆาต ◊
………..
“สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกสิโอ เสด็จพระราชสมภพเมื่อ 17 ธันวาคม ค.ศ.1936 เป็นบุตรของคนงานทางรถไฟ ทรงได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี จากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส และทรงเข้าศึกษาในสามเณราลัย พระองค์ได้ปฏิญาณตนเป็นนักบวชคณะแห่งพระเยซูเจ้า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.1958
ต่อมาใน ค.ศ.1967 ทรงจบการศึกษา แล้วรับศีลบวชเป็นบาทหลวงเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1969 ทรงทำงานสอนที่มหาวิทยาลัย “ชานมีเกล” จนดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ทางเทววิทยาแล้วได้รับการอภิเษกเป็นพระสังฆราชผู้ช่วยแห่งบัวโนสไอเรส และได้สืบตำแหน่งเป็นพระอัครสังฆราชแห่งบัวโนสไอเรส วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1998
21 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2001 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล โดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอสที่ 2 ครั้นเมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนติกต์ที่ 16 ทรงสละตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2013 ได้มีการจัดการประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ.2013 การเลือกตั้งสำเร็จลงวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.2013 หลังจากการลงคะแนนเสียงครั้งที่ 5 โดยพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิออกเสียงจำนวน 115 ท่าน
พระคาร์ดินัลฮอร์เก แบร์โกลิโอ พระอัครสังฆราชแห่งบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้รับเลือก และทรงเลือกพระนาม “ฟรังซิส” ซึ่งหมายถึงนักบุญฟรังซิสแห่งอัลซีซี นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาและคณะเยสุอิต และเป็นพระองค์แรกในรอบ 1,300 ปี นับตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปาเกรโกรี่ ที่ 3 ชาวซีเรีย และถือเป็นพระสันตะปาปาที่ไม่ได้เป็นชาวอิตาเลียน
“แต่สิ่งสำคัญอันยิ่งใหญ่และมีความหมายต่อคนไทยทั้งชาติก็คือ การที่กรุงเทพมหานครถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในนครหลวงที่พระองค์จะมาเยือนในช่วงเวลาที่เสด็จมายังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย”
“การเตรียมการเพื่ออารักขาและถวายความปลอดภัยแก่สมเด็จพระสันตะปาปาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยจะต้องบูรณาการร่วมกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งจะต้องปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรต่อต้านการก่อการร้ายสากลซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา”
ทุกถ้อยคำซึ่งได้ฟังจากการประชุมร่วมที่ตึกบัญชาการสภาความมั่นคงแห่งชาติยังก้องอยู่ในใจของธงอินทร์ขณะที่ก้าวเดินคู่กับคมจักรไปยังประตูทางออกของอาคารผู้โดยสารขาเข้าซึ่งอยู่ด้านตะวันออกของสนามบินนานาชาติเมืองฟรังโกล สาธารณรัฐโนมาโคร์ ซึ่งอยู่ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน
ด้วยเครื่องแต่งกายในชุดลำลองแบบพลเรือนมีแจ็คเก็ตสวมทับ คมจักรกับธงอินทร์จึงดูกลมกลืนกับผู้โดยสารทั่วไปที่เดินทางมายังประเทศเก่าแก่ของยุโรปเหนือ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามหลายแห่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
“โน่น… เธอรอเราอยู่ทางโน้น”
คมจักรสะกิดเพื่อน
“ซิลเวียร์ คริสตินาร์ เจ้าหน้าที่ประสานงานขององค์การต่อต้านการก่อการร้ายประจำภาคพื้นยุโรปที่คุยกับเราทางข่ายดาวเทียมเมื่อสองอาทิตย์ก่อน สัดส่วน 34-24-36”
“สายตาดีมาก ความจำเป็นเลิศอีกต่างหาก”
ธงอินทร์อดยิ้มไม่ได้
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราเพิ่งติดต่อกับเธอไม่กี่ครั้ง แต่นายสามารถเก็บรายละเอียดของคนที่ต้องทำงานด้วยได้อย่างครบถ้วน”
“อย่าสงสัยเลยเพื่อน มันเป็นพรสวรรค์ของฉันน่ะ”
คมจักรยักคิ้วแผล็บ
“ฉันถนัดอยู่แล้วเรื่องการประสานงานกับเพศตรงข้าม จากนี้ไปนายอยู่เฉยๆ เป็นแค่ผู้ฟัง ส่วนฉันจะเป็นคนสปีคกับเธอ เคปะ?”
แม้จะได้ยินเช่นนั้นแต่ธงอินทร์กลับยื่นมือให้หญิงสาวในชุดสแล็คสีดำมีสูทสีเดียวกันสวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาวได้สัมผัส
“นาวาโทธงอินทร์ครับ”
“ซิลเวียร์ คริสตินาร์…. ยินดีที่ได้พบตัวจริงของผู้พันค่ะ”
อีกฝ่ายพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปทางคมจักรซึ่งยืนทำหน้าปั้นยากอยู่ข้างๆ
“ส่วนคุณคงจะเป็น…”
“คมจักรครับ”
น้ำเสียงนั้นเหมือนต่อว่าที่ต้องจับมือนิ่มๆ เป็นคนที่สอง
“นาวาโทคมจักร… สายลับอันดับหนึ่งของกองทัพเรือที่ติดต่อกับคุณก่อนบินมาที่นี่”
“ยินดีค่ะ”
คริสตินาร์พูดขณะที่ปล่อยมือ ทำให้คมจักรรู้สึกเสียดายอย่างห้ามไม่อยู่
“เชิญข้างนอกเลยค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะ ฉันเตรียมรถไว้ให้พวกคุณแล้ว”
“ครับ ขอบคุณ”
“มีอะไรหรือเปล่า ผู้พันโอเคไหมคะ”
หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างฉงน
“ทำไมท่าทางเหมือนหายใจไม่สะดวกจนต้องสูดอากาศอย่างมากขนาดนั้น”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
คมจักรสะดุ้งเล็กน้อยแล้วรีบวางสีหน้าเป็นปกติ
“ผมเพียงแต่อยากเก็บกลิ่นถูกใจที่ลอยมาแตะจมูกไว้นานๆ เท่านั้นเองครับ”
“ขอโทษทีค่ะ”
คริสตินาร์ยักไหล่ตนเองขึ้นมาดม
“สูทตัวนี้ฉันใส่มาหลายวันแล้ว ไม่มีโอกาสส่งซัก กลิ่นก็เลยอาจจะแรงสักหน่อย”
“ไม่แรงหรอกครับ ผมชอบ มันหอมดี”
โดยไม่พูดอะไรตอบมา ซีลเวียร์ คริสตินาร์ เดินนำสองนายทหารชาวไทยออกไปนอกอาคารตรงดิ่งไปยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น
“อย่าบอกนะครับว่า คุณเตรียมซูเปอร์คาร์สีน้ำเงินคันนั้นไว้ให้ผมกับธงอินทร์”
“ถ้าใช่แล้วจะเป็นยังไงคะ”
คิ้วสวยของหญิงสาวเริดขึ้นเล็กน้อย
“หรือคุณคิดว่าพาหนะที่มารับควรเป็นรถตู้หรือรถบัสเล็กซึ่งมีที่ว่างเยอะๆ สำหรับเก็บสัมภาระ”
“เราสองคนมีแค่แฮนด์แบคคนละใบ เอารถตู้หรือรถบัสมาก็เปล่าประโยชน์ครับ”
คมจักรพูดก่อนจะเปิดประตู “มาเซราติ” โดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายร้องบอก
“และเนื่องจากทหารเรือไทยได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษมันคงจะไม่เหมาะถ้าเราจะเป็นผู้โดยสารแล้วให้เพศตรงข้ามขับรถให้”
“ผู้พันอยากลองขับม้าป่าคันนี้ใช่ไหมคะ”
“แม่นแล้วครับ”
คมจักรถูมือไปมาพร้อมกับยิ้มเหมือนเด็กที่กำลังจะได้ของเล่นถูกใจ
“ยี่ห้อนี้กำลังดังในเมืองไทย เพราะดาราสาวคนหนึ่งโดนตำรวจเรียกตรวจแล้วไปลงไอจีต่อว่าต่อขาน เลยโดนกระแสตีกลับเพราะตัวเองไม่ต่อภาษี แถมยังต้องสงสัยว่าสวมทะเบียนอีกต่างหาก”
“ฉันเชื่อว่าผู้พันขับซูเปอร์คาร์ได้ แต่ถนนหนทางไม่เหมือนเมืองไทยนะคะ”
“เรื่องเล็กครับ เพราะถึงแม้ผมจะเพิ่งมาเมืองนี้เป็นครั้งแรก แต่กูเกิ้ลแม็พก็คงจะทำให้เราไปถึงที่หมายได้ไม่ยาก”
“งั้นก็เชิญตามสบายค่ะ”
คริสตินาร์ผายมือ
“ฉันขอนั่งคุยกับผู้พันธงอินทร์ระหว่างที่คุณเป็นโชเฟอร์ก็แล้วกัน”
อึดใจเดียวหลังจากทั้งสามขึ้นไปอยู่บนรถหรูเรียบร้อย มาเซราติคันงามที่มีคมจักรอยู่หลังพวงมาลัยก็ทะยานออกจากสนามบินไปตามเส้นทางที่ระบบนำร่องร้องบอกให้ได้ยิน
แม้จะเพิ่งเคยขับซูเปอร์คาร์ยี่ห้อนี้เป็นครั้งแรก แต่คมจักรก็ไม่ทำให้เสียชาติตระกูลของพาหนะระดับไฮโซ เพียงไม่กี่วินาทีคมจักรก็เหยียบคันเร่งขึ้นไปถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนเลียบชายฝั่งที่ไต่ขึ้นสู่เนินเขาสูงขึ้นไปเป็นลำดับ
“กองบัญชาการของคุณอยู่นอกเมืองหรือครับ”
ธงอินทร์เอ่ยถามอย่างเป็นงานเป็นการขณะที่ม้าป่าสีน้ำทะเลพุ่งลิ่วไปข้างหน้า
“ใช่ค่ะ”
หญิงสาวตอบ
“จากสนามบินห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตร คือที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายภาคพื้นยุโรป ปกติเราจะใช้ที่นั่นเป็นที่วางแผนเมื่อเป็นการปฏิบัติงานข้ามชาติ”
“แบบเดียวกันที่เรากำลังจะวางแผนอารักขาพระสันตะปาปาในการเสด็จเยือนประเทศไทยใช่ไหมครับ”
“ถูกต้องค่ะ”
คริสตินาร์พยักหน้า
“ภารกิจนี้สำคัญอย่างยิ่งเพราะความปลอดภัยของพระองค์ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดและจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด”
“จากข้อมูลเบื้องต้นกลุ่มก่อการร้ายหลายกลุ่มทั้งในยุโรปและเอเชียเตรียมที่จะโจมตีการเสด็จเยือนในครั้งนี้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทางการไทยส่งผมกับนาวาโทคมจักรมาที่นี่”
“ฉันทราบค่ะว่าศัตรูของเรามีอยู่เป็นโขยงหลากชาติหลายพันธุ์”
พูดจบหล่อนก็ย้อนถาม
“คุณเคยได้ยินชื่อกลุ่มเรดนาซีหรือเปล่า”
“พวกหัวรุนแรงที่ต้องการฟื้นลัทธิฟือเรย์ของฮิตเลอร์ขึ้นมาใหม่ใช่ไหมครับ”
“หน่วยข่าวกรองได้เบาะแสมาว่าเรดนาซีเตรียมร่วมมือกับไอซิสและกลุ่มโมเรโรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปฏิบัติการสังหารประมุขแห่งคริสตจักรในทันทีที่โอกาสเปิดให้ ไม่ว่าพระองค์จะอยู่ที่ไหน”
น้ำเสียงของคริสตินาร์จริงจัง
“และใครก็ตามที่คิดจะปกป้องประมุขแห่งคริสตจักร ย่อมถือเป็นผู้ที่ขัดขวางปฏิบัติการของพวกมันซึ่งจะต้องถูกกำจัด”
“หมายถึงเราสามคนด้วยใช่ไหมครับ”
ธงอินทร์พูดไม่ทันขาดคำ “ซูเปอร์คาร์” อีกสองคันที่ซุ่มรออยู่บริเวณถนนด้านซ้ายใกล้หน้าผาก็แผดเสียงคำรามโจนทะยานออกจากตำแหน่งในทันทีที่คนในรถมองเห็นฝ่ายตรงข้ามโลดลิ่วผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว
“เป้าหมายมาแล้ว”
ชายที่นั่งข้างคนขับแจ้งไปยังพลพรรคของมัน
“มาเซราติสีน้ำเงินตรงตามที่ระบุมุ่งหน้าไปยังวิลเฮมในรถมีผู้โดยสารสามคน”
“จัดการเลย”
มีเสียงตอบกลับมาทันควัน
“อีก 6 โค้งจะถึงปากทางเข้าอุโมงค์ลอดช่องเขา รีบฆ่ามันเสียก่อน!”
ไม่มีใครในม้าป่าได้ยินคำพูดเหล่านั้น เพราะทั้งคมจักรและธงอินทร์กำลังชำเลืองหางตาไปยังทัศนียภาพข้างทางที่มีรั้วเตี้ยกางกั้นระหว่างถนนเลียบชายเขากับมหาสมุทรที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งในเวลานั้นกำลังงดงามไปด้วยแสงวิบวับจากประกายดวงอาทิตย์ที่สะท้อนขึ้นมาจากผิวทะเล
“เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกปรารถนาที่จะได้มาเห็นด้วยสายตาตนเองสักครั้งในชีวิต”
คริสตินาร์กล่าวเหมือนแนะนำ
“ถ้าเป็นไปได้ ผู้พันน่าจะลดความเร็วลงสักนิดเพื่อเพิ่มเวลาที่จะเก็บภาพสวยๆ ไว้ในความทรงจำให้นานขึ้น”
“จัดให้… ไม่มีปัญหาครับ”
คมจักรตอบยิ้มๆ พร้อมกับผ่อนคันเร่ง
“เราไปแบบชิลๆ ปล่อยให้ปอร์เช่กับเฟอรารี่ที่เหาะมาข้างหลังแซงไปก่อนก็แล้วกัน”
“ผู้พันว่าอะไรนะ”
คริสตินาร์ไหวตัวด้วยสัญชาตญาณจากสิ่งที่ได้ยินและในทันทีที่เหลียวกลับไปเห็นซูเปอร์คาร์อันปราดเปรียวโหลดต่ำสองคัน พุ่งลิ่วมาด้วยความเร็วสุดยอดแบบคู่ขนานในลักษณะจี้เข้าหาพาหนะที่อยู่ด้านหน้า หล่อนก็ร้องตะโกนออกมาสุดเสียง
“อันตราย! เผ่นเร็ว!”
โดยไม่ต้องให้หญิงสาวตะโกนซ้ำสอง มาเซราติในบังคับของคมจักรเพิ่มสปีดขึ้นในพริบตาเกือบจะพร้อมๆ กับที่สมุนของเรดนาซีโผล่ออกมาจากหลังคาปอร์เช่แล้วเหนี่ยวไกยิงขณะที่อีกคนชะโงกตัวออกจากหน้าต่างข้างคนขับเฟอร์รารี่แล้วเปิดฉากยิงพร้อมๆ กัน
ปังๆๆๆๆ!
ปังๆๆๆๆ!
เสียงปืนแผดสนั่นพร้อมด้วยวิถีกระสุนแดงโร่แหวกอากาศมาเป็นสาย โดยมีม้าป่าของคู่พยัคฆ์ชาวไทยเป็นเป้า ยังผลให้สะเก็ดไฟแตกกระจายออกจากตัวถัง
“ต้องเป็นเรดนาซีแน่ๆ… มันคงรู้ว่าเจ้าหน้าที่คนไทยอยู่ในรถคันนี้!”
คริสตินาร์คำรามพร้อมกับชักปืนออกมาจากซองใต้ไหล่
“หมอบไว้ผู้พัน! ฉันจะยิงสู้มัน!”
ขาดคำ หญิงสาวที่มีประสบการณ์ภาคสนามก็ตวัดปากกระบอกเล็งเป้าผ่านกระจกท้ายรถก่อนจะเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนออกไปทันที
ปัง! ปัง! ปัง!
ปัง! ปัง! ปัง!
การดวลปืนระหว่างซูเปอร์คาร์แพงระยับบังเกิดขึ้นบนถนนที่เลาะเลี้ยวเป็นทางโค้งเลียบชายฝั่งด้านซ้ายทิวเขาด้านขวา แต่ฝ่ายไล่ล่ามีอำนาจการยิงมากกว่า เพียงอึดใจเดียวกระสุนนัดหนึ่งก็ทะลุมาเซราติแล้วจับเปาะเข้าที่แขนของคริสตินาร์จนหล่อนร้องอุทานออกมารปืนบนมือร่วงหลุดอย่างช่วยไม่ได้
“บ้าชิบ! ฉันถูกยิง!”
“ผมเอง… คุณหมอบไว้ก็แล้วกัน!”
ธงอินทร์ร้องบอกเร็วปรื๋อแล้วคว้าปืนสั้นของเจ้าหน้าที่สาวขึ้นมาเป็นอาวุธขณะที่ได้ยินคมจักรร้องตะโกนดังลั่น
“ข้างหน้าเป็นทางโค้งชิดไหล่เขา… ฉันจะนับสามแล้วปีนขึ้นไปให้นายยิงมันจากมุมสูงนะเพื่อน!”
“โอเค!”
ธงอินทร์ร้องตอบพร้อมกับกระชับปืนบนมือแน่น รอฟังสัญญาณจากเพื่อนร่วมตาย
“สาม… สอง… หนึ่ง!”
ขาดคำ คมจักรก็กระชากพวงมาลัยให้หมุนไปครึ่งรอบยังผลให้ม้าป่าถลาออกจากทางไต่ทะยานขึ้นสู่ภูมิประเทศซึ่งเป็นเนินเขา ยังผลให้มาเซราติลิ่วไปข้างหน้าเป็นมุมเฉียงกับพื้นถนนด้านล่างชนิดฝ่ายที่ไล่ตามมาคาดไม่ถึง
พริบตาเดียวกับที่มุมยิงเปิดให้ธงอินทร์ก็ตวัดปืนที่ประกบด้วยสองมือเล็งเป้าที่อยู่ต่ำกว่าแล้วเหนี่ยวไกชนิดมั่นใจว่าจะไม่พลาด
ปัง!
นัดเดียวเท่านั้น เรดนาซีที่โผล่มายิงกระหน่ำจากหลังคาปอร์เช่ก็มีอันหงายผงะเมื่อโดนกระสุนสังหารแล่นเข้ากลางยอดอก ปืนบนมือกระเด็นหลุดหงายท้องตายสนิทอยู่บนหลังคาในบัดดล
แล้วสิ่งที่ตามมาในพริบตาอันต่อเนื่องก็คือคมจักรกระทืบเบรคจมมิดพร้อมกับกระชากพวงมาลัยอีกครั้ง ยังผลให้ม้าป่าหมุนคว้างฝุ่นธุลีม้วนตลบในจังหวะที่ชะงักการโลดทะยานขณะที่ปอร์เช่กับเฟอรารี่บนถนนด้านล่างพุ่งแซงไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้
“ทีกูบ้างละ!”
คมจักรคำรามก่อนจะถอนเท้าออกจากเบรคแล้วกระทืบโครมลงบนคันเร่งยังผลให้มาเซราติออกตัวราวกับรถแข่งพุ่งจากเส้นสตาร์ท ปักหัวลงสู่ถนนในตำแหน่งไล่หลังปรปักษ์ด้วยกลยุทธที่อีกฝ่ายต้องตกตะลึง
แล้วมาเซราติก็สำแดงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของมันให้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จทำงานทะลุพิกัดชนิดแผดเสียงกระหึ่มโลก ยังผลให้ม้าป่าจี้เข้าใส่ท้ายรถปอร์เช่ซึ่งพลปืนกลายเป็นผีไปแล้ว และกำลังวิ่งคู่กับเฟอร์รารี่ชั่วเวลาไม่ถึงสามนาทีก่อนที่คมจักรจะหันพวงมาลัยไปทางซ้ายสู่ตำแหน่งประกบข้าง แล้วกระชากพวงมาลัยกลับมาทางขวาเพื่อกระแทกม้าป่าเข้าใส่ปอร์เช่เต็มเหนี่ยว
โครม!
แรงกระแทกทำให้ปอร์เช่สะท้านเยือกเสียศูนย์เข้าไปชิดติดกับเฟอร์รารี่ ขณะที่ตัวถังของรถทั้งสามคันเบียดบี้ติดกันชนิดมองเห็นคนขับได้อย่างถนัด
“ตอนนี้เลย… ธงอินทร์!”
คมจักรร้องตะโกนเร็วปรื๋อและนั่นจึงทำให้ธงอินทร์ตวัดปากกระบอกปืนเข้าใส่ปอร์เช่โดยมีตำแหน่งคนขับเป็นเป้า
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนแผดลั่นเกือบจะพร้อมๆ กับที่คมจักรเหยียบเบรกเอี๊ยดสนั่นราวกับจะรู้ว่าทั้งสามนัดจากการยิงของธงอินทร์ระเบิดหัวของโชเฟอร์จนแตกกระจาย ยังผลให้ปอร์เช่ที่ปราศจากคนบังคับเสียศูนย์หมุนคว้างพลิกตีลังกาเข้าไปขวางเฟอรารี่ก่อนที่ซูเปอร์คาร์ทั้งสองคันจะชนกันบนถนนแล้วระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว
ตูม! บึ้ม!
เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นจากตำแหน่งมรณะชนิดไม่ต้องสงสัยเลยว่าสมาชิกของเรดนาซีที่เหลืออยู่ในรถจะรอดชีวิตหรือไม่
คมจักรกับธงอินทร์จึงถอนหายใจโล่งอกเมื่อภัยคุกคามและอันตรายจากการไล่ล่าจบสิ้นลงขณะที่คริสตินาร์เกือบจะคิดว่าตนเองฝันไปในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
“เหลือเชื่อจริงๆ พวกคุณทำได้ยังไง”
หล่อนหลุดปากออกมาชนิดแทบจะลืมความเจ็บปวดที่บาดแผลจากคมกระสุน
“เราถูกฝึกมาเพื่องานแบบนี้โดยเฉพาะครับ”
คมจักรได้ที
“อดทนอีกนิดนะครับ เราจะรีบพาคุณไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”
“ขอบคุณค่ะ ฉันไม่เป็นไรมาก แผลยังไกลหัวใจ”
คริสตินาร์พูดมาเป็นประโยคสุดท้าย ขณะที่ในใจนึกขอบคุณประเทศไทยที่ส่งคนมีฝีมืออย่างคมจักรและธงอินทร์มาร่วมในภารกิจสำคัญซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าการอารักขาพระสันตะปาปาจะต้องบรรลุผลอย่างแน่นอน
***********************************
อ่านทุกตอนคลิ๊กที่รูป