◊ ล่ามาสเตอร์มายด์ (3) ◊
………..
ภายใต้ความมืดของท้องฟ้าเหนือหุบเขาอันเป็นที่ตั้งแหล่งชุมนุมกลุ่มก่อการร้าย ฮาซัน ตอยิบ เดินจากไปหลังจบการสนทนากับเมมูดห์มหาวายร้ายอีกตนหนึ่งซึ่งเป็นเป้าหมายของทางการจีน การจู่โจมของทีมพยัคฆ์สองชาติในวันนี้จึงไม่ต่างอะไรกับการยิงปืนนัดเดียวได้เหยื่อสองตัวด้วยโชคที่เข้าข้างอย่างบังเอิญที่สุด
ตอนที่คมจักรย่องเงียบเข้าสู่เป้าหมาย ทรชนเมมูดห์เพิ่งจะหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ในห้องพักได้ไม่กี่นาที มันกำลังหลับตานึกภาพการก่อเหตุร้ายครั้งต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“ไอ้พวกบัดซบทั้งหลาย… พระเจ้าจะลากพวกแกไปนรก แล้วลงโทษอย่างสาสม”
เมมูดห์เค้นเสียงออกมากับตนเอง
“แต่ฉันว่าไม่ใช่นะ”
เสียงเข้มๆ ดังให้ได้ยินพร้อมกับปลายลำกล้องปืนที่กระทุ้งลงสู่ชายโครงอย่างฉับพลัน ทำให้เมมูดห์สะดุ้งวาบลืมตาขึ้นทันที
“เพราะคนที่จะโดนลงโทษน่าจะเป็นโคตรชั่วอย่างแกมากกว่าว่ะ”
“มึง…!”
“อะไรมึง… พูดจาให้มันสุภาพสมกับเป็นหัวหน้าโจรหน่อยสิ”
คมจักรแยกเขี้ยวพร้อมกับเพิ่มแรงกดปากกระบอกปืนมากขึ้น เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเจ็บจนต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“มึงมาจากไหน… ต้องการอะไร”
เมมูดห์จ้องมองคมจักรด้วยแววตาแข็งกร้าวอย่างคนที่ยังไม่สิ้นพยศ
“บังอาจมากที่เข้ามาที่นี่… มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นใคร”
“ไอ้คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วเที่ยวได้ไปร้องถามคนอื่นนี่มันน่าตบจริงๆ ว่ะ”
คมจักรพูดด้วยเสียงคำราม ผลักจอมวายร้ายให้นอนคว่ำ คว้าแขนหน้าเอามือไพล่หลัง พร้อมกับกดเข่าลงไปแบบตรึงหมุด
“วันนี้คือจุดจบของแก เพราะฉันกับหมวยจีนกำลังจะเอาตัวแกไปขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีการก่อการร้าย และเราจะรีดข้อมูลจากแกด้วยว่าใครบ้างที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน”
“มึงเป็นคนไทย ทำไมมาเสือกเรื่องของกู”
“ฉันไม่ได้เสือกแต่จีนกับไทยเป็นพี่น้องกัน”
คมจักรยักคิ้วแผล็บ
“แกคือคนที่ปักกิ่งต้องการตัวเพราะเป็นผู้บงการสังหารประธานที่ปรึกษาของท่านจิ้นผิง ในฐานะที่ไทยเป็นมิตรที่ดีของจีน ฉันก็เลยช่วยอนุเคราะห์ความต้องการของเขาจะได้ไม่ต้องล่าตัวแกอีกต่อไป”
“อย่าคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้น”
“แกจะพูดอะไรก็ได้ แต่ฉันรับรองว่าคราวนี้แกไม่รอดแน่”
“มึงต่างหากที่จะไม่รอด”
เมมูดห์คำราม
“เพราะที่นี่เป็นค่ายฝึกอาวุธขบวนการก่อการร้ายโลก และลูกน้องกูมีเป็นร้อย ไม่มีวันที่มึงจะกลับออกไปได้แน่”
“อ้อ… เป็นแฟรนไชส์หรือสาขาคนชั่วว่างั้นเถอะ”
คมจักรทำเสียงยั่วโทโส ขณะที่จัดการมัดมือปรปักษ์ไพล่หลัง และใช้เทปกาวสีดำขนาดใหญ่ปิดปากไว้หลายชั้น
“เสียใจด้วยนะที่แกจะต้องเป็นใบ้ไปชั่วคราวระหว่างเดินเท้าไปจากที่นี่”
“อื้อ… อื้อ… อื้อ…”
เมมูดห์พยายามส่งเสียง
“ฉันเข้าใจ… แกจะบอกว่าพร้อมแล้วใช่มั้ย”
คมจักรยิ้มออกมาอย่างกวนๆ แล้วกระทุ้งเข่าใส่ชายโครงเมมูดห์อย่างแรงเป็นสัญญาณ
“ฉันจะพาแกไปเดี๋ยวนี้ แต่ขอบอกก่อนว่าถ้าพยายามจะใส่ตีนหมาวิ่งหนีไปจากฉันเมื่อไหร่ละก็ กระสุนจากปืนของฉันจะพุ่งไปเจาะกบาลของแกทันที!”
“คมจักรจากธงอินทร์”
เสียงที่ได้ยินทางเอียร์โบนในไม่กี่อึดใจต่อมา ทำให้คมจักรซึ่งคุมตัวเมมูดห์ออกมาจากที่พักตอบรับด้วยคำถาม
“ว่าไงเพื่อน”
“ฉันเข้าประจำที่ และมองเห็นนายกับเป้าหมายเคลื่อนที่ออกมาแล้ว”
ธงอินทร์บอกมาจากตำแหน่งซุ่มยิง
“ต้องการให้ช่วยอะไรหรือเปล่า”
“เนกาทีฟ”
คมจักรตอบ
“ทุกอย่างเรียบร้อย ฉันแค่เสียเวลาอธิบายความกับไอ้เวรตะไลนี่นิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“รีบถอนตัวออกมาก่อนที่มูหลินจะระเบิดคลังแสงของพวกมัน”
“ไม่มีปัญหา แล้วยูเหมยคนสวยของฉันล่ะ”
“ฉันไม่ใช่คนสวยของคุณ”
ยูเหมยแทรกเข้ามาด้วยเสียงเหมือนกระซิบ
“ตอนนี้ฉันอยู่ใกล้ห้องเป้าหมาย กำลังจะเข้าล็อคตัวฮาซัน ตอยิบ… กรุณาเงียบกันหน่อยได้มั้ย”
ประโยคที่ได้ยินทำให้ทุกคนที่อยู่ในระบบสื่อสารแบบเอียร์โบนยุติการตอบโต้กันแต่เพียงนั้น และเจ้าของวาจาเหมือนคำสั่งก็ไม่รอการตอบรับจากฝ่ายเดียวกัน หล่อนสืบเท้าอย่างระมัดระวังตรงไปยังประตูห้องของศัตรูผู้เป็นเป้าหมาย
อาวุธอัตโนมัติบนมือของยูเหมยกระชับแน่น นิ้วเรียวสวยทาบอยู่บนไกในลักษณะพร้อมยิงโดยไม่ประมาท
จนกระทั่งเมื่อถึงที่หมายพยัคฆ์สาวชาวจีนจึงเอื้อมมือซ้ายไปจับลูกบิดประตู แล้วค่อยๆ หมุนอย่างแผ่วเบา
และโชคก็เข้าข้างหล่อน เมื่อจอมวายร้ายฮาซัน ตอยิบไม่ได้ล็อคห้อง
ยูเหมยจึงค่อยๆ แง้มประตูทีละน้อยแล้วแทรกตัวเข้าไป ขณะที่สายตามองเห็นมหากาลีตัวฉกาจยืนหันหลังให้ ซึ่งนั่นน่าจะหมายความว่าหล่อนควรจะชาร์จเข้าประชิดแล้วจี้จับตัวปรปักษ์ได้โดยง่ายท่ามกลางความเงียบสงัด
แต่เรื่องกลับไม่เป็นไปตามนั้น
เพราะในจังหวะเดียวกับที่งานวินาศกรรมคลังอาวุธของมูหลินใกล้จะเสร็จสิ้น หญิงสาวซึ่งเป็นคนนำทางและกำลังคุกเข่าอยู่กับพื้นก็สัมผัสได้ถึงเสียงกริ๊กของลูกเลื่อนที่แว่วมากระทบโสตประสาทจากตำแหน่งเหนือศีรษะทางด้านหลัง
สิ่งที่บังเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ทำให้มูหลินรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นยามเฝ้าคลังสามารถย่องเงียบเข้ามาประชิดผู้บุกรุกโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันระวัง และไอ้นั่นกำลังจะส่งกระสุนสังหารเข้าสู่เป้าหมาย
สัญชาตญาณทำให้หล่อนถีบเท้าสุดแรงเกิดเพื่อกระโจนออกจากตำแหน่งเกือบจะพร้อม ๆ กับที่สไนเปอร์ธงอินทร์ซึ่งกวาดปืนมองผ่านกล้องเล็งมาเห็นยามเฝ้าคลังเป็นฝ่ายเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนออกมาได้ก่อนชนิดยิงตัดหน้าเพียงเสี้ยววินาที!
ปั่บ!
มีเพียงธงอินทร์ที่ได้ยินเสียงระเบิดทึบเหมือนเปิดแชมเปญอันเกิดจากอาวุธสังหารระยะไกลในวินาทีที่กระสุนร้อนจี๋พุ่งเข้าใส่กลางยอดอกของศัตรูอย่างแม่นยำจนคนที่โดนสั่งตายสะดุ้งเฮือกร้องสุดเสียง
แต่ในจังหวะที่ไอ้นั่นกำลังจะขาดใจและหงายโครมลงไปกระแทกพื้น นิ้วที่ค้างอยู่ในไกปืนของมันก็เหนี่ยวฉับ ยังผลให้กัมปนาทการยิงแผดคำรามออกมาราวกับประทัดแตก
ปังๆๆๆๆ! ปังๆๆๆๆ!
เสียงปืนที่ดังสนั่นหวั่นไหวทำให้สถานการณ์ของทีมพยัคฆ์ที่แทรกซึมเข้ามาจับตัวหัวหน้าผู้ก่อการร้ายเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดกับยูเหมย เมื่อวายร้ายฮาซัน ตอยิบไหวตัวด้วยสัญชาตญาณในวินาทีที่ได้ยินอาวุธอัตโนมัติระเบิดรัวหูดับตับไหม้
แวบแรกที่หันมาเห็นหญิงสาวแปลกหน้า มันก็ร้องสบถออกมาคำหนึ่งเกือบจะพร้อมๆ กับที่บาทาติดจรวดดีดผึงเข้าใส่ปลายลำกล้องของผู้บุกรุกราวกับสายฟ้าแลบ
ผัวะ!
แรงเตะทำให้ปากกระบอกปืนเบี่ยงเฉยพร้อมๆ กับที่กระสุนลั่นก้องออกไปโดยไม่ถูกใคร และก่อนที่ยูเหมยจะตั้งหลักได้ ร่างล่ำสันของฮาซัน ตอยิบก็หมุนเป็นวงในจังหวะอันต่อเนื่องเพื่อเหวี่ยงขาหลังในท่า “แบ็คคิก” อย่างรวดเร็วชนิดมองแทบไม่ทัน
ผัวะ!
เสียงส้นเท้าฟาดเข้าใส่เป้าเต็มเหนี่ยวดังถนัดหู ความรุนแรงของมันทำให้ไรเฟิลพานท้ายตัดสั้นกระเด็นหลุดจากเจ้าของพร้อมๆ กับอาการเอียงวูบเสียหลักของยูเหมยซึ่งคาดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะพลิกผันไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่พยัคฆ์สาวชาวจีนก็ใช่ว่าจะเสียทีปรปักษ์จนหมดทางสู้ เพราะในบัดดลที่ฮาซัน ตอยิบซึ่งกำลังได้เปรียบฉวยจังหวะนั้นกระโจนเข้าใส่หมายจะอัดซ้ำด้วยกำปั้น ยูเหมยก็เบี่ยงหลบเพียงนิดเดียวพร้อมกับตะปบมือเข้าใส่อกเสื้อและหัวไหล่ปรปักษ์แล้วกระชากสุดแรงพร้อมกับเหวี่ยงตีนเตะตัดในลีลาของนักยูโดชั้นยอด
ทีเดียวเท่านั้น ฮาซัน ตอยิบก็มีอันลอยคว้างด้วยท่าทุ่มกระเด็นข้ามโต๊ะกลางห้อง ก่อนจะหล่นลงกระแทกพื้นดังสนั่น
โครม!
ถึงจะเจ็บจุกแค่ไหนแต่หัวหน้าทรชนตัวฉกาจก็กัดฟันตะเกียกตะกายลุกขึ้นราวกับจะรู้ว่าศัตรูเพศตรงข้ามต้องกระโจนตามเข้ามาเผด็จศึกอย่างแน่นอน
แล้วทุกอย่างก็เป็นจริงตามนั้น
เพราะยังไม่ทันที่ฮาซัน ตอยิบจะตั้งหลักได้ถนัด ร่างของยูเหมยก็พุ่งลิ่วเข้าใส่ พร้อมๆ กับหมัดขวาแน่นปั๋งที่เหวี่ยงเข้ามาหมายกระโดงคางของปรปักษ์ชนิดถ้าโดนเข้าไปนับถึงร้อยยังไม่ลุก
แม้โชคจะไม่เข้าข้างยูเหมย เพราะฮาซัน ตอยิบผงะหน้าหลบไปได้อย่างฉิวเฉียด แต่กระนั้นมันก็ต้องเซแซดๆ เข้าไปชนผนังห้อง เมื่อยูเหมยซึ่งตัวหมุนเพราะต่อยผิดใช้จังหวะนั้นเหวี่ยงขาหลังตามมาในท่าจระเข้ฟาดหางและส้นเท้าข้างนั้นก็กระแทกเข้ากลางยอดอกของคู่ต่อสู้แบบเกลือจิ้มเกลือโดยไม่พลาด
ผัวะ!
ทั้งที่โดนอวัยวะเบื้องต่ำเข้าอย่างจัง แต่แทนที่ฮาซัน ตอยิบจะร่วงลงไปด้วยความเจ็บจุก มันกลับเอาคืนด้วยตีนหน้าที่ดีดผึงเข้าใส่ลำตัวของยูเหมยจนหงายผงะก่อนที่ฮาซัน ตอยิบจะกระโจนตามแล้วยิงหมัดขวาเต็มเหนี่ยว
ผัวะ!
กำปั้นสั่งญาติของหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายจับเปาะเข้าที่ปากครึ่งจมูกครึ่งของยูเหมยจนเลือดกระจาย พร้อมๆ กับที่พยัคฆ์สาวหมุนคว้างเซถลาหัวปักลงกระแทกพื้นด้วยอากัปกิริยาอันไม่แตกต่างจากมวยกรงแปดเหลี่ยมที่ถูกตะบันลงไปจมเวที
แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ยูเหมยตกอยู่ในวินาทีอันตรายเท่ากับการที่ฮาซัน ตอยิบเหลือบเห็นตำแหน่งที่ไรเฟิลอัตโนมัติซึ่งถูกเตะกระเด็นหล่นอยู่บนพื้นในจังหวะก่อนหน้านั้น
วายร้ายภาคใต้จึงโผนเข้าไปคว้าทูตมรณะกระบอกนั้นขึ้นมาเป็นอาวุธ แล้วหันขวับไปทางศัตรูด้วยท่าทีกระหายเลือด
“มึงตาย!”
ฮาซัน ตอยิบคำรามลั่น นัยน์ตาลุกจ้าในวินาทีที่กระโจนเข้าไปจังก้าอยู่เหนือศัตรูซึ่งมันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร
แต่ก่อนที่อาวุธบนมือซึ่งส่องร่าเข้าหาเป้าหมายที่เสียท่านอนหงายอยู่บนพื้นจะพ่นกระสุนออกมาเพียงเสี้ยววินาที สไนเปอร์ธงอินทร์ซึ่งเปลี่ยนเป้าจากการคุ้มกันมูหลินก็เหนี่ยวไกตัดหน้าได้ก่อน
ปั่บ!
อาวุธติดปลอกลดเสียงดังเหมือนเปิดจุกเชมเปญชนิดดังขึ้นพร้อมๆ กับที่อานุภาพของกระสุนเหล็กที่สาดเข้ามาจากตำแหน่งซุ่มยิง ทำให้ฮาซัน ตอยิบซึ่งโดนเข้าไปที่ด้านหลังบ่าขวาสะดุ้งพรวดหัวปักลงไปหายูเหมย
จังหวะนั้นเองที่พยัคฆ์สาวชาวจีนเบี่ยงหลบพร้อมกับกระชากปืนที่ติดมือฮาซัน ตอยิบออกมาเป็นอาวุธ ราวกับจะรู้ว่าสมุนกลุ่มก่อการร้ายด้านนอกจะต้องเข้ามาช่วยลูกพี่ซึ่งหน้าคะมำลงไปจูบพื้นอย่างแน่นอน
แล้วทุกสิ่งก็เป็นไปอย่างที่คิด เพราะในวินาทีอันต่อเนื่อง ปรปักษ์คนแรกก็กระโจนเข้ามาในห้องพร้อมด้วยอาร์ก้าบนมือแต่มันกลับกลายเป็นผีด้วยการยิงของพยัคฆ์สาวมหาประลัย
ปังๆๆๆ! ปังๆๆๆ!
เสียงปืนแผดก้องราวประทัดแตก และทั้งสองชุดของยูเหมยที่แล่นออกไปก็จับเปาะเข้าเต็มร่างจนไอ้นั่นกระโจนขึ้นสุดตัวร้องออกมาสุดเสียงก่อนจะหล่นโครมลงฟาดพื้นตายโหงไปในบัดดล
มันจึงไม่มีโอกาสได้เห็นยูเหมยซึ่งเป็นคนยิงเด้งผึงจากตำแหน่งโผนเข้าไปคว้าคอของคนเป็นลูกพี่ให้ลุกขึ้นจากพื้น
“ฮาซัน อย่าเพิ่งตาย แกต้องไปกับฉัน!”
เกือบจะพร้อมๆ กับที่ประโยคนั้นหลุดจากปาก ยูเหมยก็ตวัดปืนไปทางขวาแล้วเหนี่ยวไกเข้าใส่นักรบกลุ่มก่อการร้ายคนที่สองในวินาทีที่หางตาเหลือบเห็นเป้าวูบไหวจู่โจมเข้ามาทางหน้าต่างพร้อมด้วยเขี้ยวเล็บบนมือ
ปังๆๆๆ! ปังๆๆๆ!
พิษสงของกระสุนสังหารที่แล่นเข้าใส่ ทำให้ปรปักษ์ที่โดนเข้าไปผงะหงายแหกร้องออกมาไม่เป็นภาษาวิญญาณปลิดปลิวออกจากร่างก่อนที่จะหล่นลงมาฟาดพื้นด้วยซ้ำ
ส่วนคนที่สามซึ่งบุกเข้ามาทางประตูด้านหลัง แต่วิ่งตะลุยเข้ามาแบบสับฝีเท้าราวกับกลัวว่ายูเหมยจะไม่รู้ ก็ต้องกลายเป็นผีตามเพื่อนของมันไปด้วยกระสุนจากหญิงเดี่ยวซึ่งหันขวับแล้วระเบิดการยิงสวนออกไปอย่างฉับพลัน
ปังๆๆ! ปังๆๆ!
ประกายไฟแลบวาบจากปลายลำกล้องในวินาทีที่มฤตยูทุกนัดพุ่งเข้าสู่จุดตายอย่างแม่นยำ ผู้ก่อการร้ายชะตาขาดจึงมีอันหัวปักลงกระแทกพื้นตายสนิทชนิดไม่ทันได้ร้องออกมาแม้แต่คำเดียว
“ได้ตัวฮาซัน ตอยิบแล้ว จะไปที่จุดนัดพบเดี๋ยวนี้!”
เสียงของพยัคฆ์สาวชาวจีนที่ร้องบอกเพื่อนร่วมทีมดังขึ้นในเอียร์โบน ทำให้มูหลินคนนำทางรีบต่อสายระเบิดเส้นสุดท้ายแล้วจุดชนวนทันที
“ได้เวลาพินาศแล้ว!”
หล่อนลั่นวาจาออกมา ก่อนจะเผ่นออกจากตำแหน่งซึ่งในอีกไม่กี่วินาทีนับจากนี้จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความฉิบหายวายวอด
แต่การถอนตัวของมูหลินก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยง่ายอย่างที่คิด
เพราะเกือบจะในทันทีที่โผล่ออกมาจากคลังแสงของกลุ่มก่อการร้าย หล่อนก็ต้องเผชิญกับปรปักษ์สองคนซึ่งตวัดปืนเข้าหาร่างวูบไหวที่พุ่งตัวลงพื้นราวกับจะรู้ว่าฝนเหล็กกำลังจะสาดเข้าหาในพริบตานั้น
ปังๆๆๆๆ! ปังๆๆๆๆ!
เสียงปืนระเบิดรัวสนั่นหวั่นไหวแผดสะท้านแก้วหู พร้อมๆ กับมฤตยูร้อนจี๋ที่เฉียดผ่านร่างของมูหลินจนเจ้าตัวรู้สึกได้ ขณะที่หล่อนเหวี่ยงปากกระบอกปืนสวนเข้าหาแล้วเหนี่ยวไกสาดกระสุนกลับคืนชนิดทันทีทันควัน
ปังๆๆๆๆ! ปังๆๆๆๆ!
กัมปนาทการยิงดังกึกก้องในวินาทีที่กระสุนพุ่งออกมา ทำให้ปรปักษ์ไม่มีโอกาสได้ยิงซ้ำ เพราะแผ่นอกของมันทะลุปรุพรุนด้วยอานุภาพของมฤตยูที่แล่นเข้าปะทะอย่างถนัดถนี่ จนร่างในชุดสีทึบกระเด็นผางราวกับถูกม้าเตะร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหงายโครมลงไปฟาดพื้นชนิดไม่มีโอกาสที่จะลุกขึ้นมาได้อีก
ถึงตอนนั้นทั่วทั้งค่ายของกลุ่มก่อการร้ายก็เต็มไปด้วยความโกลาหลอลหม่าน และเสียงร้องตะโกนเอะอะอย่างตื่นตระหนกสับสนราวกับนรกครอบลงสู่บริเวณนั้น
ทุกคนคว้าอาวุธวิ่งพล่านเข้าประจำตำแหน่งป้องกัน ขณะที่ส่วนหนึ่งแห่กันมายังบริเวณที่ได้ยินเสียงรัวสนั่นจากการยิงอันบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ามีการปะทะกับผู้บุกรุกเกิดขึ้นแล้วอย่างแน่นอน
แต่ยังไม่ทันจะไปถึงที่หมาย โสตประสาทของพวกมันก็ดังสะท้านด้วยเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวปานฟ้าถล่ม
ตูม! บึ้ม!
แรงระเบิดขนาดใหญ่ทำให้ปฐพีสั่นสะท้านราวกับแผ่นดินไหว ถึงตอนนั้นพยัคฆ์สาวชาวจีนก็รู้แล้วว่าสิ่งที่จะต้องทำต่อไปคืออะไร ยูเหมยจึงคว้าคอเชลยวิ่งจี๋ชนิดเร็วสุดชีวิต
“ผู้พัน… เราได้ของครบแล้ว!”
“ผมจะคุ้มกันให้ รีบไปเจอกันที่จุดนัดพบเดี๋ยวนี้!”
ธงอินทร์ตอบมาทางเอียร์โบน
“รู้แล้วโว้ย… ฉันกำลังไป”
คมจักรแทรกเข้ามาทันควัน
“ยิงเบิกทางให้ด้วยนะเพื่อน!”
ท่ามกลางความโกลาหลอลหม่านที่บังเกิดขึ้นทั่วบริเวณ นักรบกลุ่มก่อการร้ายที่กำลังวิ่งพล่านก็กลายเป็นเป้าเคลื่อนที่ เมื่อธงอินทร์ซึ่งทำหน้าที่พลซุ่มยิงอยู่บนเนินลั่นไกปล่อยกระสุนจากสไนเปอร์ติดกล้องเล็ง เพื่อเปิดทางให้ฝ่ายเดียวกันถอนตัวตามแผนการที่วางไว้
“ยิงสกัดมันไว้! อย่าให้พวกมันหนีไปได้!”
สมุนของสองผู้ก่อการร้ายตัวเอ้ร้องตะโกนบอกกันพร้อมกับเหนี่ยวไกไล่หลังผู้บุกรุกที่กำลังเผ่นทะยานออกจากรังของมัน พร้อมด้วยเชลยคนสำคัญซึ่งเป็นลูกพี่ของพวกมันทั้งสองคน
แต่กระสุนที่แหวกอากาศตามหลังฝ่ายหนีก็ไร้ผล เพราะไม่มีนัดไหนถูกเป้า ตรงข้ามกับกระสุนของธงอินทร์ที่ปล่อยออกไปเด็ดหัวฝ่ายตรงข้ามคนแล้วคนเล่า
อานุภาพการยิงส่งผลให้สมุนกลุ่มก่อการร้ายล้มร่วงเป็นใบไม้หลุดจากต้น ขณะที่ทีมจู่โจมทุกนายต่างรู้แล้วว่าสิ่งที่ต้องทำคือตรงไปถึงจุดนัดพบให้เร็วที่สุด เพื่อถอนตัวออกจากพื้นที่ปะทะ
คนที่ไปถึงตำแหน่งสำคัญเป็นคนแรกคือยูเหมย ซึ่งปักหลักชันเข่าประทับปืนเตรียมยิงสกัดฝ่ายตรงข้ามที่จะต้องติดตามมาอย่างแน่นอน
และพยัคฆ์สาวชาวจีนก็ไม่ต้องรอนาน เพราะในอึดใจอันต่อเนื่องขณะที่สายตามองเห็นคมจักรหิ้วคอเมมูดห์สับฝีเท้าเข้าหาจุดนัดพบโดยมีฝ่ายตรงข้ามร่างใหญ่กวดตามมาติดๆ พร้อมกับสาดกระสุนไล่หลังชนิดกัดไม่ปล่อย
ศูนย์เล็งของยูเหมยจึงจับนิ่งไปยังร่างของนักรบกลุ่มก่อการร้ายชนิดที่ไอ้นั่นไม่สำเหนียกเลยว่าวิญญาณกำลังจะหลุดลอยออกจากร่างในไม่กี่วินาทีข้างหน้า
“ฉันจัดการให้ผู้พัน!”
ขาดคำนิ้วที่อยู่บนไกปืนก็เหนี่ยวฉับ
ปังๆๆๆ! ปังๆๆๆ!
กัมปนาทการยิงในระบบอัตโนมัติแผดสนั่น พร้อมๆ กับประกายไฟแลบวาบจากปลายลำกล้องและกระสุนชุดนั้นก็จับเปาะเข้ากลางเป้าเคลื่อนที่ ยังผลให้คนที่โดนเข้าไปหงายผลึ่งตายสนิทก่อนหลังกระแทกพื้นด้วยซ้ำ
“ฉันกับยูเหมยเจอกันแล้ว”
ธงอินทร์ได้ยินเสียงคมจักรทางเอียร์โบน
“ตอนนี้นายอยู่ไหนเพื่อน รีบมาที่จุดนัดพบได้แล้ว!”
“โอเค! จะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
ธงอินทร์ตอบก่อนจะเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนสไนเปอร์นัดสุดท้ายออกไปจากตำแหน่งซุ่มยิง แล้วผุดลุกขึ้นสับฝีเท้าในท่าเฉียงอาวุธมุ่งสู่ที่หมาย ซึ่งคมจักรกำลังรออยู่พร้อมด้วยยูเหมยและเชลยคนสำคัญ
ทันทีที่ธงอินทร์เข้ามาสมทบกับทีมจู่โจม นาวาโทชาวไทยก็ร้องถามเสียงรัว
“มูหลินล่ะ”
“ฉันก็กำลังรออยู่เหมือนกัน”
คนนำทางหญิงได้ยินคำตอบของยูเหมยผ่านทางเอียร์โบนที่เสียบอยู่ในหูอย่างถนัดและหล่อนจึงตอบมาอย่างว่องไว
“ฉันกำลังไป… ขออีก 5 วิ!”
แต่แล้วสิ่งที่มูหลินคาดไม่ถึงก็อุบัติขึ้น
เพราะในจังหวะที่หล่อนสับฝีเท้ามาถึงเสากำบังต้นใหญ่ ร่างล่ำสันของสมุนก่อการร้ายคนหนึ่งก็โผล่พรวดออกมาพร้อมกับพานท้ายปืนที่เหวี่ยงสวนมาแบบเต็มเหนี่ยว
ผัวะ!
เสียงของแข็งปะทะจุดสลบดังสนั่นพร้อมๆ กับที่โลกทั้งใบของมูหลินถล่มลงในบัดดลนั้นเอง
เกือบจะพร้อมๆ กับที่คนนำทางหงายผงะลงไปหลังกระแทกพื้น เสียงแผดแหลมของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นพร้อมกับลูกไฟแดงโร่แหวกอากาศเข้าหาจุดนัดพบ ทำให้คมจักรร้องตะโกนดังลั่น
“ระวัง! อาร์พีจี!”
วินาทีที่เสียงของคมจักรขาดหาย กัมปนาทสนั่นร้าวแก้วหูก็บังเกิดขึ้นเมื่อจรวดหัวปลีกระทบเป้า
ตูม!
พิษสงของอาวุธต่อสู้รถถังทำให้ต้นไม้ใหญ่บริเวณจุดนัดพบหักโค่นสะเก็ดระเบิดร้อนจี๋ปลิวว่อนและนั่นจึงไม่ต่างอะไรกับสัญญาณที่ทำให้ยูเหมยตัดสินใจเด็ดขาด
“ไปจากที่นี่! เร็วเข้า!”
หล่อนร้องเสียงหลง
“ที่หมายแลนดิ้งโซน… ฮ. กำลังมารับเรา!”
“พวกคุณไปกันก่อน ผมจะไปตามมูหลิน!”
ธงอินทร์ตะโกนลั่นแล้วรับไรเฟิลอัตโนมัติมาจากคมจักรเกือบจะพร้อมๆ กับที่เสียงหวีดแหลมของอาร์พีจีลูกที่สองดังก้อง ก่อนที่หัวปลีนรกจะถล่มลงสู่เป้าหมายเดิมดังสนั่น
ตูม!
ปฐพีสั่นสะเทือนเลือนลั่นด้วยแรงระเบิด ขณะที่ยูเหมยกับคมจักรลากคอเชลยวิ่งฝ่าเศษดินปลิวกระจายก่อนที่เสียงปืนจากการยิงจะแผดคำรามตามมาหูดับตับไหม้
ปังๆๆๆๆ! ปังๆๆๆๆ!
เปรี้ยงๆๆๆๆ! เปรี้ยงๆๆๆๆ!
ห่ากระสุนร้อนจี๋ที่แหวกอากาศไล่หลัง ทำให้ฝ่ายที่จู่โจมเข้ามาในรังโจรสับฝีเท้าชนิดเร็วสุดชีวิตโดยไม่คิดที่จะยิงปะทะขั้นแตกหัก เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนั้นคือการไปถึง “แลนดิ้ง โซน” ให้เร็วที่สุด
“บัตเตอร์ฟลาย จากไอคอน… ถึงไหนแล้วตอนนี้”
ยูเหมยส่งเสียงถึงอากาศยานฝ่ายเดียวกัน
“ข้าศึกกำลังตามเรามา… คาดว่าจุดลงจอดคงไม่ปลอดภัย”
“บัตเตอร์ฟลายอยู่ห่างจากแลนดิ้งโซน 5 ไมล์… ขอให้ใช้สโม้คแสดงตำแหน่งของข้าศึกเมื่อเราไปถึง”
“ทราบ”
ทุกวินาทีที่ผ่านไปหมายถึงความเป็นความตายของทุกชีวิตที่ถูกไล่ล่าท่ามกลางกระสุนที่ศัตรูสาดระดมไล่หลัง ขณะที่บนท้องฟ้าห่างออกไปไม่มากนัก ใบพัด ฮ. กำลังหมุนจี๋พร้อมด้วยเสียงแผดกระหึ่มเมื่อเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพจีนเร่งความเร็วเข้าสู่ที่หมาย
จังหวะเดียวกันนั้นเอง ธงอินทร์ก็ทะยานสวนทางเข้าหาการไล่ติดตามของฝ่ายตรงข้าม พร้อมกับเหนี่ยวไกสาดกระสุนออกไปเป็นวงกว้างเพื่อเปิดทางให้กับตนเองในการย้อนกลับไปค้นหาคนนำทางด้วยความห้าวหาญ
ปังๆๆๆๆ!
ปังๆๆๆๆ!
เสียงปืนจากการยิงของยอดพยัคฆ์ชาวไทยแผดระรัวราวกับประทัดแตกพร้อมๆ กับที่คนลั่นไกกระโจนลิ่วไปข้างหน้าไม่หยุดจนกลุ่มก่อการร้ายที่โดนห่ากระสุนกดหัวไม่อาจสกัดกั้นไว้ได้
“เจอคนนำทางแล้ว!”
ธงอินทร์ร้องบอกฝ่ายเดียวกันทางเอียร์โบนจากสิ่งที่เห็น
“พวกมันกำลังจะเอาตัวเธอไป!”
ผู้ก่อการร้ายร่างใหญ่ซึ่งกำลังจะลากมูหลินขึ้นมาจากพื้น หันมาเห็นธงอินทร์ในจังหวะนั้น ปืนบนมือของมันจึงตวัดเข้าหาแล้วระเบิดกระสุนออกมาดังสนั่นเกือบจะพร้อมๆ กับที่ยอดพยัคฆ์ชาวไทยพุ่งตัวลงพื้นแล้วเหนี่ยวไกสวนกลับชนิดมั่นใจว่าจะไม่พลาด
ปังๆๆๆๆ!
ทุกนัดของธงอินทร์เสยขึ้นสูงแล้วจับเปาะเข้าใส่เป้าที่จังก้าอยู่เหนือพื้น ขณะที่กระสุนของไอ้นั่นพุ่งผ่านร่างที่โฉบต่ำไปอย่างช่วยไม่ได้
ผู้ก่อการร้ายที่เล่นงานมูหลินจึงมีอันโค่นตึงลงกับพื้นตายสนิท โดยไม่มีโอกาสได้เห็นผู้ที่ปลิดชีวิตของมันผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งปราดเข้าหาคนนำทางซึ่งยังคงแน่นิ่งไร้สติอยู่บนพื้น
“ผู้พัน… ขอทราบสถานการณ์”
ยูเหมยร้องถามเสียงรัว
“ตอนนี้เราอยู่บน ฮ. พร้อมด้วยเชลยแล้ว!”
“ได้ตัวมูหลินแล้วผมจะยิงพลุแสดงตำแหน่งขึ้นฟ้า บอกให้นักบินสังเกตที่หมายแล้วบินเข้ามาเลย!”
“โอเค”
สิ้นเสียงตอบของยูเหมยที่อยู่บน ฮ. ธงอินทร์ก็ชักปืนพลุออกมาจากชุดคอมแบทสูท แล้วตวัดลำกล้องตั้งฉากกับพื้นก่อนจะเหนี่ยวไกออกไปโดยไม่ชักช้า
ปึ้ง!
พลุสีส้มระเบิดกลางท้องฟ้าเหนือตำแหน่งคนยิงมองเห็นได้อย่างถนัด แต่ก็มิได้เฉพาะนักบินเท่านั้นที่ประจักษ์ตาเพราะกลุ่มก่อการร้ายที่กำลังอยู่ในสภาพผึ้งแตกรังก็มองเห็นสัญญาณแสดงตำแหน่งนั้นเช่นกัน
พวกมันจึงแห่กันมายังจุดที่พลุไฟถูกยิงขึ้นฟ้าหมายจะล้อมกรอบกินโต๊ะศัตรูให้ดับดิ้น แต่สิ่งที่บังเกิดในบัดดลต่อมาก็คือมรณกาลชนิดตายหมู่ราวกับมดปลวกถูกขยี้
“ข้างบนมี ฮ. ยิงมันเลย!”
วินาทีเดียวกับที่ประโยคนั้นหลุดจากปากของคนที่กำลังจะชะตาขาด
“มินิกัน” อัตรากระหน่ำ 6,000 นัดต่อนาที ก็พ่นกระสุนชุดแรกออกมาจาก ฮ. กันชิป เป็นปฐมฤกษ์
เปรี้ยงๆๆๆ!
เปรี้ยงๆๆๆ!
มฤตยูร้อนจี๋พุ่งลงมาเป็นเม็ดฝนที่โปรยเข้าเต็มร่างกองโจรก่อการร้ายที่อยู่ด้านล่าง ยังผลให้ทุกชีวิตที่โดนเข้าไปสะดุ้งพรวดกระโจนตัวลอยด้วยพิษสงของกระสุนพิฆาตที่ทะลวงเข้าไประเบิดภายใน ก่อนที่ร่างเหล่านั้นจะหล่นลงมาฟาดฟื้นตายสยองโดยไม่มีโอกาสรับรู้เลยว่า หลังจากนั้นความบรรลัยวายวอดได้บังเกิดกับพลพรรคของมันที่เหลือราวกับนรกถล่มทับ
เพราะเกือบจะพร้อมๆ กับที่กองโจรที่อยู่บนพื้นและรอดพ้นจากการยิงชุดแรกแตกฮือเข้าหาที่กำบัง ปืนกล “มินิกัน” ซึ่งติดอยู่ข้างลำตัวกันชิปก็พ่นกระสุนชุดที่สองลงมาราวกับห่าพายุ
เปรี้ยงๆๆๆ! เปรี้ยงๆๆๆ!
เปรี้ยงๆๆๆ! เปรี้ยงๆๆๆ!
อานุภาพการยิงทำให้ทุกชีวิตที่อยู่ภายใต้ “ฝนเหล็ก” ล้มระเนระนาด ขณะที่ปลอกกระสุนเป็นร้อยๆ นัดดีดกระเด็นออกมาจากแท่นปืนมองเห็นได้ถนัด
“ผู้พันธงอินทร์อยู่ที่นั่น!”
ยูเหมยร้องบอกพร้อมกับชี้มือ
“เอาเครื่องลงไปรับเร็วเข้า!”
แม้ตำแหน่งแลนดิ้งโซนแห่งใหม่จะถูกเคลียร์ไปแล้วหนึ่งรอบพร้อมกับหลายสิบชีวิตของผู้ก่อการร้าย แต่คนที่รอดพ้นจากการกวาดล้างยังคงปักหลักสู้แบบบ้าดีเดือด ด้วยการเปิดฉากยิงเข้าใส่ ฮ. ที่มองเห็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ปังๆๆๆๆ! ปังๆๆๆๆ!
ปังๆๆๆๆ! ปังๆๆๆๆ!
กัมปนาทปืนหลาบสิบกระบอกระเบิดรัวราวกับประทัดแตก มีวิถีกระสุนสว่างโร่พุ่งขึ้นไปเป็นสายยังผลให้นักบินจากแผ่นดินใหญ่ร้องสบถเสียงลั่นในวินาทีที่บังคับเครื่องเอียงหลบด้วยสัญชาตญาณของการป้องกันตัว
“บ้าระยำ! ยังมีพวกมันเหลืออยู่อีกหรือนี่!”
สมุนก่อการร้ายที่อยู่เบื้องล่างไม่ได้ยินประโยคที่อยู่ในห้องนักบิน มิหนำซ้ำในเสี้ยววินาทีอันต่อเนื่องจรวดประทับบ่าลูกแรกก็ถูกเล็งสูงก่อนที่คนยิงซึ่งชันเข่าปักหลักอย่างมันคงจะกดไกส่งหัวปลีพิฆาตออกไปจากท่อสังหารในทันที
เฟี้ยวววว !
แวบแรกที่มองเห็นลูกไฟแดงฉานแหวกอากาศลิ่วขึ้นมาเป็นมุมเฉียงพร้อมด้วยเสียงแผดแหลมราวกับเปรตร้อง
นักบินผู้ช่วยก็หลุดปากออกมาดังลั่น
“ระวังจรวดทาง 9 นาฬิกา!”
ปฏิกริยาที่เกิดขึ้นก็คืออาการพลิกตัวตะแคงข้างของ ฮ.ทั้งลำด้วยฝีมืออันว่องไวของนักบินที่หนึ่ง ยังผลให้อาร์พีจีลูกนั้นเฉียดผ่านเป้าหมายไปหวุดหวิดก่อนที่เสียงคำรามด้วยความเดือดดาลของยอดนักบินจะดังตามมา
“ไอ้พวกบัดซบ! ทีนี้กูล่อมึงบ้างละ”
ขาดคำ “มินิกัน” แบบ 3 ลำกล้องที่ติดอยู่ข้าง ฮ. ก็แผดกัมปนาทสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าพิโรธ
เปรี้ยงๆๆๆๆ! เปรี้ยงๆๆๆๆ!
เปรี้ยงๆๆๆๆ! เปรี้ยงๆๆๆๆ!
เปลวไฟแลบวาบจากท้องนภาพร้อมๆ กับห่ากระสุนที่ประเคนลงมาในอัตรา 6,000 นัดต่อนาที ยังผลให้แนวป่ารกทึบฉีกกระจายพื้นดินสะท้านเยือกมีสภาพเหมือนถูกพายุลูกเห็บกระหน่ำเข้าใส่
และก่อนที่ศัตรูบนพื้นดินจะทันได้ตั้งตัว อาวุธพิฆาตขั้นแตกหักจากกันชิปก็ลิ่วตามลงมาเมื่อนักบินที่หนึ่งโจมตีซ้ำด้วยการกดปุ่มยิงจรวดอากาศสู่พื้นเข้าสู่ที่หมายเบื้องล่างโดยไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปแม้แต่วินาทีเดียว
เฟี้ยว… !
ตูม! บึ้ม!
เสียงระเบิดดังกึกก้องปานฟ้าถล่มในวินาทีที่ลูกไฟสว่างวาบควันดำพวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน ต้นไม้หักโค่น เศษชิ้นส่วนปลิวว่อนด้วยอานุภาพของจรวดอากาศสู่พื้นสองลูกที่ทะลวงเข้าใส่เป้าโดยไม่พลาด
“ตายโหงไปหมดเถอะมึง!”
นักบินมือพิฆาตแยกเขี้ยวคำราม ก่อนจะกดปุ่มยิงมินิกันซ้ำอีกระลอกเพื่อกวาดล้างศัตรูให้สิ้นซาก
ปังๆๆๆๆ!
ปังๆๆๆๆ!
ห่ากระสุนที่กระหน่ำลงมาราวพายุฝน ทำให้ผู้ก่อการร้ายกลุ่มสุดท้ายถูกกำหราบจนราบคาบในเวลาอันสั้นก่อนที่นักบินกันชิปจะได้ยินเสียงของฝ่ายเดียวกันดังลั่นวิทยุ
“ผู้พันพามูหลินเข้ามาเลย เราจะลงจอดเดี๋ยวนี้!”
บัดนั้นเองที่ ฮ. ของกองทัพจีนร่อนลงจอดในตำแหน่งเปิดโล่ง ขณะที่ฝุ่นธุลีม้วนตลบด้วยแรงลมจากใบพัดเพื่อรอรับผู้โดยสารสองคนสุดท้าย
“พวกเขามาแล้ว เตรียมบินขึ้น!”
นักบินของบัตเตอร์ ฟลาย ได้ยินผู้ช่วยร้องบอก
“พัสดุครบ… ไป! ไป! ไป!”
ในนาทีนั้นเองอากาศยานปีกหมุนของกองทัพแผ่นดินใหญ่ก็บินลิ่วออกจากสมรภูมินรกที่กลืนกินชีวิตของกลุ่มก่อการร้ายไว้เบื้องหลัง พร้อมความสำเร็จอย่างงดงามของการปฏิบัติภารกิจร่วมระหว่างคู่มหากาฬของไทยกับพยัคฆ์สาวชาวจีน ซึ่งแน่นอนจะต้องมีขึ้นอีกในวันข้างหน้า
ตราบใดที่ “ภัยคุกคาม” ต่อความสงบสุขของทั้งสองชาติยังไม่จบสิ้นลงอย่างถาวร
**************************
อ่านทุกตอนคลิ๊กที่รูป