◊ มังกรอันดามัน 2 ◊
……………….
เสียงแผดระรัวกึกก้องบังเกิดขึ้นจนแก้วหูสะท้านในวินาทีที่กระสุนแดงวาบกระหน่ำเข้าใส่ตำแหน่งกำบังของธงอินทร์ราวกับห่าฝน จนนายทหารชาวไทยต้องแยกเขี้ยวฟุบหน้าหมอบราบลงกับพื้น
จังหวะเดียวกับที่การยิงตอบโต้ของเชลยเพียงหนึ่งเดียวขาดหาย รปภ. ทีมสองที่มีจำนวนมากกว่าก็ดาหน้ารุกคืบเข้ามาอย่างย่ามใจ หมายจะเด็ดหัวศัตรูในระยะประชิด
แต่ก่อนที่พวกมันจะได้ทำอย่างที่คิด ธงอินทร์ซึ่งแนบหน้าติดพื้นก็ไถลร่างออกมาพ้นแนวกำบังเพียงนิดเดียว แต่รวดเร็วชนิดมองแทบไม่ทัน พร้อมๆ กับที่ปืนในมือลั่นคำรามพ่นกระสุนออกมาราวกับข้าวตอกแตก
ปังๆๆๆๆ !!
ปังๆๆๆๆ !!
แม้จะเป็นการยิงชนิดปากกระบอกปืนอยู่ห่างจากพื้นไม่ถึงฝ่ามือ แต่วิถีมฤตยูที่พุ่งออกไปก็ไม่พลาดเป้า
สมุนวายร้ายที่โดนเล่นงานฐานล่างจึงร้องอุทานออกมาเสียงลั่น เมื่อกระสุนร้อนจี๋เจาะเข้าในตำแหน่งเหนือบาทาไม่ถึงคืบ ยังผลให้แต่ละคนที่โดนเข้าไปล้มคว่ำก่อนที่นรกจะครอบซ้ำลงมาทับ ในบัดดลอันต่อเนื่องเมื่อธงอินทร์สาดกระสุนตามออกมาโดยไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปแม้แต่วินาทีเดียว
ปังๆๆๆๆ !!
ปังๆๆๆๆ !!
ทุกนัดที่แล่นออกจากปลายลำกล้องทะลวงเข้าใส่จุดตายของปรปักษ์ที่เป็นเป้าหมายอย่างเหมาะเหม็ง แต่ละคนที่โดนเข้าไปจึงกลายเป็นผีโดยไม่มีโอกาสรู้เลยว่าความพินาศวายวอดกำลังจะบังเกิดขึ้นกับปีศาจทะเลล่องหนลำนี้
เพราะบนท้องฟ้าอันมืดมิดเหนือเรือสเตลล์ที่จอดพรางไฟมืดอยู่หลังเกาะนิรนามในทะเลอันดามัน ทีมผสมไทย-จีนซึ่งดิ่งพสุธาแบบฮาโล (กระโดดจากระยะสูงกระตุกร่มในระยะต่ำ) มาจากเครื่องบินลำเลียง “ไชนีส กาแล็กซี่” กำลังร่อนลงสู่ที่หมายราวกับเหยี่ยวราตรีโฉบเข้าหาเหยื่อ
นักรบพิเศษทั้งสองชาติอยู่ในชุด “คอมแบท สูท” สีกลืนความมืด ทุกคนสวมเฮลเมทกันกระสุนติดกล้องไนท์วิชั่น ช่วยให้มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในความมืดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรือผิวน้ำล่องหนอันเป็นตำแหน่งจู่โจม
“ทุกคนเห็นเป้าหมายแล้วใช่มั้ย”
เสียงของคมจักรดังขึ้นในระบบสื่อสารที่เชื่อมต่อกันผ่านเอียร์โบน
“หมายเลขคู่ลงสู่ดาดฟ้าหัวเรือ หมายเลขคี่ลงสู่ดาดฟ้าท้ายเรือ ถ้าเจอสิ่งกีดขวางจัดการให้หมด จากนั้นเราจะบุกตรงทางเข้ากลางลำพร้อมกัน!”
ยามที่อยู่บนดาดฟ้าเรือสเตลล์จึงมีอันชะตาขาดจากประกาศิตของนายทหารชาวไทย
เพราะในขณะที่พวกมันถือปืนประจำตำแหน่งทางหัวเรือและท้ายเรือ ใช้สายตามองไปรอบตัว ทั้งคู่ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่ามัจจุราชกำลังลอยลงมาจากเบื้องบน
“แปลกจัง… เสียงอะไรดังชอบกล”
ยามท้ายเรือเปรยขึ้นกับตนเองในทันทีที่โสตประสาทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่คล้ายกับการเคลื่อนไหวบนท้องฟ้า
“แถวนี้ไม่น่าจะมีค้างคาวบินมาได้นี่หว่า”
สัญชาตญาณทำให้มันเงยหน้าขึ้นแล้วมองกวาดขึ้นไปรอบทิศ ก่อนที่นัยน์ตาทั้งสองข้างจะเบิกกว้างกับสิ่งที่เห็น
“เฮ้ย…!”
นั่นเป็นคำอุทานสุดท้ายที่หลุดจากปากก่อนที่ลำแสงของเลเซอร์ชี้เป้าซึ่งส่องลงมาจากปืนของฝ่ายที่บินเข้ามาจะจับเข้าที่กลางหน้าผาก แล้วตามมาด้วยเสียงแห่งความตายในวินาทีที่ผู้จู่โจมเหนี่ยวไก
ฟุ่บ!
เสียงดังไม่เกินเปิดจุกแชมเปญดังขึ้นพร้อมๆ กับกระสุนร้อนจี๋แหวกอากาศเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ
คนที่โดนเข้าไปจึงมีอันทะลึ่งโลดขึ้นจากตำแหน่ง แล้วหล่นโครมลงไปฟาดพื้นตายสนิท ก่อนที่เพชฌฆาตกับผู้ติดตามจะบังคับร่มลงเหยียบดาดฟ้าในอึดใจอันต่อเนื่อง
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรกับยามอีกคนบนดาดฟ้าหัวเรือ เมื่อพยัคฆ์สาวชาวจีนปล่อยกระสุนเข้าใส่ท้ายทอยของฝ่ายตรงข้าม ยังผลให้ศีรษะของไอ้หมอนั่นแตกระเบิดเหมือนแตงโมถูกทุบ กลายเป็นผีเฝ้าเรือไปในบัดดล
“หัวเรือเคลียร์!”
หลินชินเสียงย้ำ ก่อนจะได้ยินคมจักรร้องตอบอย่างทันใจ
“ท้ายเรือเคลียร์! บุกเลย!”
คำสั่งของคมจักรทำให้ทีมจู่โจมเลื่อนกล้องไนท์วิชั่นขึ้นจากตำแหน่ง เพื่อเข้าสู่ที่สว่างซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยอีกต่อไป ทุกคนเขม็งตัวเต็มที่ เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีอันต่อเนื่อง การปะทะขั้นแตกหักกำลังจะอุบัติขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าในเวลาเดียวกันนั้น สถานการณ์ภายในเรือก็กำลังเขม็งเกลียวถึงขีดสุดเช่นกัน เมื่อธงอินทร์ซึ่งอยู่ในที่กำบังได้ยินโทเรโต เอ็ดเลอร์ องค์รักษ์ของดอกเตอร์เรมอนด์ อิสมาแอล ร้องตะโกนลั่น
“ทิ้งปืนแล้วออกมาเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นกูยิงเพื่อนมึง!”
ประกาศิตนั้นเกิดขึ้นในทันทีที่เหวินหลงนักบินจีนซึ่งเสียท่าถูกเอ็ดเลอร์ลากออกมาจากห้องที่เคยใช้ในการสอบสวนเชลยในสภาพถูกล็อคคอจ่อปืนด้วยฝีมือองค์รักษ์ของจอมแฮ็กเกอร์ ซึ่งรอดพ้นจากความตายด้วยเกราะอ่อนที่สวมใส่อยู่
“ไม่ได้ยินหรือไง”
อิสมาแอล ดอกเตอร์เชื้อสายอิหร่านซึ่งเดินตามมาทางด้านหลังคำรามลั่น
“ลูกน้องกูสั่งให้ทิ้งปืน ถ้าไม่อยากให้เพื่อนมึงตาย!”
จังหวะเดียวกับที่ธงอินทร์โยนปืนทิ้ง แล้วก้าวออกมาตามคำสั่งเพราะไม่มีทางเลือก ทีม รปภ. อีกชุดของเรือสเตลล์ก็วิ่งมาตามช่องทางเดินชั้นบนเพื่อคุ้มกันเจ้านาย และนั่นจึงเป็นจุดพลิกผันของสถานการณ์อีกครั้ง เมื่อคมจักรกับหลินชินเสียงนำทีมจู่โจมบุกทะลวงเข้ามาจากดาดฟ้าชั้นบนพอดิบพอดี
“เฮ้ย..!!”
หัวหน้า รปภ. ร้องอุทานอย่างตกใจกับสิ่งที่เห็น พร้อมกับตวัดปืนด้วยสัญชาตญาณ แต่อากัปกิริยานั้นยังช้าไปกว่าการเหนี่ยวไกของคมจักรที่ปล่อยกระสุนออกมาได้ก่อน ชนิดยิงตัดหน้าเพียงเสี้ยววินาที
ปังๆๆๆๆ !!
กัมปนาทปืนที่แผดคำรามกึกก้องไม่เพียงจะทำให้ร่างที่อยู่ในวิถีกระสุนหงายผงะเท่านั้น แต่มันยังทำให้องครักษ์เอ็ดเลอร์หันขวับไปยังจุดปะทะด้วยสัญชาตญาณ และนั่นจึงเป็นโอกาสให้นักบินจีนซึ่งตกเป็นเชลยเหวี่ยงมือปัดปลายลำกล้องที่จ่อขมับให้เบี่ยงเฉ พร้อมสะบัดตัวสุดแรงเกิดจนหลุดจากวงล็อคพุ่งร่างลงพื้น เช่นเดียวธงอินทร์ที่กระโจนเข้าหาอาวุธกระบอกเดิมที่เพิ่งโยนทิ้งเพื่อคว้ามันมาเป็นเขี้ยวเล็บอีกครั้ง
ปังๆๆๆๆ !!
เปรี้ยงๆๆๆๆ !!
เสียงปืนของธงอินทร์และองครักษ์ร่างยักษ์ดังประสานกันจนแยกไม่ออกว่าใครยิงก่อน และกระสุนของทั้งคู่ก็ไม่พลาดเป้า เพราะเรือเอกเหวินหลงโดนกระสุนของเอ็ดเลอร์เข้าที่กลางหลังแบบเต็มๆ ขณะที่เอ็ดเลอร์องครักษ์โดนลูกตะกั่วของธงอินทร์ที่ยอดอกอย่างถนัดถนี่เช่นกัน
เกราะอ่อนที่สวมอยู่ด้านในช่วยป้องกันให้เอ็ดเลอร์รอดตายอีกครั้ง องครักษ์ร่างยักษ์จึงเพียงแค่หงายผงะซวนเซด้วยแรงปะทะของกระสุนที่พุ่งเข้าใส่ และในทันทีที่ตั้งหลักได้ มันก็ตวัดปากกระบอกเข้าหาธงอินทร์เพื่อสาดกระสุนกลับคืนทันทีทันควัน
เปรี้ยงๆๆๆๆ !!
เปรี้ยงๆๆๆๆ !!
แม้กระสุนจะไม่ถูกเป้า แต่การยิงทุกนัดก็ทำให้นาวาโทชาวไทยต้องกลิ้งเข้าหาที่กำบังเพื่อให้พ้นจากอันตราย ขณะที่เอ็ดเลอร์ร้องบอกดอกเตอร์อิสมาแอลเร็วปรื๋อ
“เราถูกบุก! รีบไปที่ทางออกฉุกเฉินเร็วครับนาย!”
โดยไม่ต้องรอให้คนคุ้มกันประจำตัวร้องบอกซ้ำสอง จอมแฮ็กเกอร์สับฝีเท้าออกจากตำแหน่งโดยมีสมุนมือขวาสาดกระสุนสกัดกั้นศัตรูในลักษณะยิงพลางถอยพลาง ขณะที่บนช่องทางเดินติดกับดาดฟ้าชั้นบนเสียงปืนจากการต่อสู้ระหว่างทีมจู่โจมกับ รปภ. แผดระรัวหูดับตับไหม้
“คิดจะหนีงั้นหรือ”
ธงอินทร์คำรามทั้งที่ถูกยิงกระหน่ำจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้น
“อย่าหวังเลยว่าฉันจะปล่อยให้แกรอดไปได้ง่ายๆ”
บัดนั้นเองที่ธงอินทร์เสือกปากกระบอกปืนลงต่ำในลักษณะแนวขนานห่างจากพื้นไม่ถึงคืบก่อนจะเหนี่ยวไกสาดกระสุนออกไปเป็นวงกว้างโดยมีอวัยวะเบื้องต่ำของศัตรูที่กำลังเผ่นทะยานไปยังช่องทางฉุกเฉินเป็นเป้าหมาย
ปังๆๆๆๆ !!
ปังๆๆๆๆ !!
กลยุทธ์ของนายทหารชาวไทยไม่มีอะไรผิดพลาด ทั้งองครักษ์เอ็ดเลอร์และเจ้านาย ซึ่งโดนเจาะบาทา จึงมีอันล้มคว่ำไปต่อไม่ได้ และนั่นจึงเป็นโอกาสให้ธงอินทร์ผุดลุกขึ้นแล้วสับฝีเท้ากระโจนตามชนิดไม่เปลี่ยนให้เวลาผ่านไปแม้แต่วินาทีเดียว
อีกเพียงไม่กี่ก้าวก่อนที่ธงอินทร์ก็จะเข้าถึงตัวศัตรู คมจักรซึ่งมองเห็นความเป็นไปด้านล่าง ก็ร้องตะโกนบอกหลินชินเสียงดังลั่น
“ผู้กอง… ฝากบนนี้ด้วย!”
ขาดคำ ยอดพยัคฆ์ชาวไทยก็ผุดลุกออกจากตำแหน่งแล้วยิงเปิดทางให้กับตนเอง ขณะเคลื่อนตัวเร็วจี๋ไปยังขอบพื้นด้านขวา ก่อนจะถีบเท้ากระโจนสุดตัวเข้าไปคว้าโซ่เกี่ยวรอกที่ห้อยลงมาจากเพดาน เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการโหนเพื่อเหินเวหาไปยังบริเวณที่เพื่อนร่วมตายกำลังจะเข้าถึงตัวฝ่ายตรงข้าม
“ธงอินทร์… ฉันมาช่วยแล้ว!”
เสียงตะโกนที่ได้ยินทำให้คนที่ถูกระบุชื่อรู้ได้ในทันทีว่าเกมใกล้จบเพาะคู่หูกำลังมา
แต่นาวาโทมหากาฬก็ไม่ได้เสียเวลาหันกลับไปมอง เพราะสายตาแข็งกร้าวของธงอินทร์ซึ่งประทับปืนเข้าร่องไหล่กำลังจับจ้องไปยังร่างขององครักษ์ศัตรู ซึ่งพยายามตะเกียกตะกายเข้าไปหาอาวุธประจำกายที่กระเด็นหลุดจากมือ
ปัง !!
เสียงเหมือนจุดประทัดดังขึ้นเมื่อธงอินทร์เหนี่ยวไก ยังผลให้สะเก็ดไฟแตกกระจายออกมาจากตำแหน่งที่เอ็ดเลอร์เอื้อมมือเข้าหา
“นัดต่อไปจะไม่ใช่พื้นระวาง แต่จะเป็นสมองของแก!”
ธงอินทร์ร้องบอกเสียงกร้าว
“ลุกขึ้น! แล้วเอามือประสานไว้บนหัว… แกจบเห่แล้ว!”
“ฉันยังไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็นใคร”
คมจักรกระโจนลงพื้นแล้วย่างเท้าเข้าหาดอกเตอร์อิสมาแอลซึ่งกำลังกัดกรามด้วยความเจ็บปวดจากคมกระสุนที่เจาะใส่เท้า
“แต่ฉันไม่ชอบพูดมากให้เสียเวลา เอาเป็นว่าแกฝันร้ายไปก่อนก็แล้วกัน!”
ขาดคำ บาทาเกร็งแน่นของคมจักรก็เหวี่ยงเข้าใส่จะงอยคางของจอมแฮ็กเกอร์เต็มเหนี่ยว และเป็นจังหวะเดียวกับที่หลินชินเสียงขว้างระเบิดมือเข้าใส่ปรปักษ์ ซึ่งกำลังยิงต่อสู้บนทางเดินชั้นบนพอดิบพอดี
ผัวะ!!
ตูม!!
เสียงอวัยวะเบื้องต่ำอัดเข้าใส่จุดสลบถูกกลบด้วยเสียงระเบิดสนั่นลั่นเรือ เมื่ออาวุธสังหารหมู่จุดชนวนโดยไม่มีอะไรผิดพลาด ในวินาทีที่สะเก็ดสังหารปลิวว่อนพร้อมๆ กับคลื่นกระแทกแผดแผ่ออกมาจนตำแหน่งทำลายล้าง และบริเวณใกล้เคียงสั่นสะท้านราวกับถูกมือยักษ์จับเขย่า
นั่นเองจงกลายเป็นวินาทีทองของไอ้ยักษ์เอ็ดเลอร์ มันฉวยโอกาสขณะที่ธงอินทร์เสียศูนย์ เพราะแรงระเบิดเหนือหัวทะยานเข้าใส่ พร้อมกับเหวี่ยงตีนที่บาดเจ็บเข้าใส่ปืนของนายทหารชาวไทยสุดแรงเกิด
ทีเดียวเท่านั้น อาวุธบนมือธงอินทร์ก็มีอันกระเด็นด้วยแรงเตะของศัตรูที่ใหญ่กว่าชนิดบังกันมิด แต่ก่อนที่คนเตะจะเผ่นตามไปคว้ามันมาเป็นกรรมสิทธิ์ คมจักรซึ่งเห็นเหตุการณ์ก็กระโจนเข้าใส่เพื่อช่วยเพื่อน ด้วยการเหวี่ยงพานท้ายหมายใบหน้าของบอร์ดี้การ์ดร่างยักษ์สุดแรงเกิด
ผัวะ!!
เสียงพานท้ายปะทะกับแขนล่ำสันของเอ็ดเลอร์ที่เหวี่ยงเข้าสกัดของแข็งที่ฟาดเข้ามาดังสนั่นพร้อมๆ กับที่ไรเฟิลกระบอกนั้นปลิวหลุดชนิดที่คมจักรต้องอุทานออกมาอย่างลืมตัว และก่อนที่พยัคฆ์ชาวไทยจะตั้งตัวได้ บาทาอีกข้างขององครักษ์ทรชนก็ถีบตูมเข้าใส่ ยังผลให้คมจักรกระดอนออกไปก้นจ้ำเบ้าในบัดดล
“ดีเลยที่พวกมึงมา… เพราะนานมากแล้วที่กูไม่ได้ฆ่าคนด้วยมีด!”
เอ็ดเลอร์แสยะยิ้มก่อนจะชักอาวุธออกมาจากซองที่เหน็บไว้
“มึงจะเป็นคนแรกที่โดนปาดคอในฐานะที่เสือกกะโหลกเข้ามาขวางกู!”
ขาดคำมันก็กระโจนเข้าใส่คมจักรซึ่งพยายามจะผุดลุกขึ้น แต่ก็ยังช้าไปกว่าปรปักษ์ที่เข้าถึงตัวแล้วเงื้อแขนปักมีดลงมา โดยมีร่างของพยัคฆ์ชาวไทยเป็นเป้า
แต่คมจักรก็ไวพอที่จะเอาตัวรอดด้วยการตวัดสองมือขึ้นตะปบแขนของศัตรู เพื่อสกัดไว้ไม่ให้ปลายมีดเสียบยอดอกชนิดที่ว่าหากช้าไปอีกนิดเดียวอาวุธพิฆาตคงปักมิดด้าม
“มึงตาย!”
เอ็ดเลอร์คำรามลั่นขณะที่โถมตัวปล่อยพลังออกมาเต็มพิกัด จนปลายมีดค่อยๆ ขยับต่ำลงไปเป็นลำดับ เพราะแรงต้านของคมจักรมีน้อยกว่า
แต่ก่อนที่คมจักรจะสิ้นชื่อ
ยอดพยัคฆ์ธงอินทร์ก็โผนเข้าช่วยคู่หูด้วยการเหวี่ยงแข้งสุดแรงเกิด โดยมีชายโครงขององครักษ์ร่างยักษ์เป็นเป้า
ผัวะ!!
เสียงแม่ไม้มวยไทยแบบ “เตะถวายจ้าว” ดังสนั่นหูพร้อมๆ กับที่แรงอัดส่งร่างของศัตรูที่ตกเป็นเป้ากระเด็นหลุดจากตำแหน่ง ได้เปรียบร้องสบถออกมาเมื่อความเจ็บจุกแล่นจี๊ดขึ้นสู่สมอง
“ขอบใจเพื่อน”
คมจักรแยกเขี้ยวขณะที่ผุดลุกขึ้น
“เราหายกันแล้วนะ ขอบใจเช่นกันที่นายพาคนมาช่วยฉัน”
ธงอินทร์พูดพร้อมกับยิ้มเกรียมๆ
“ทีนี้ก็ถึงคราวต้องแพ็คคู่เพื่อจัดการกับไอ้ยักษ์ตัวนั้น”
“ได้เลยเพื่อน… แต่ระวังหน่อย เพราะมันยังมีมีดอยู่ในมือ”
“ดีแล้ว… จะได้ไม่มีการโวยว่าสองรุมหนึ่ง เพราะนายกับฉันมีแค่มือเปล่าเท่านั้น”
“โอเค”
คมจักรพยักหน้า
“ลุยมันเลย!”
ขาดคำ คู่พยัคฆ์มหากาฬก็สืบเท้าเข้าหาศัตรูซึ่งยันกายลุกขึ้นโดยไม่ชักช้า ก่อนจะโถมเข้าหาธงอินทร์ที่อยู่ทางขวา แล้วเหวี่ยงแขนเป็นวงกว้างเพื่อตวัดมีดใส่เป้า
ขวับ!
ขวับ! ขวับ! ขวับ!
มีดบินของไอ้นั่นแหวกอากาศเฉียดเฉี่ยวไปมาอย่างน่าหวาดเสียว เพราะธงอินทร์เอี้ยวตัวโยกหลบทั้งซ้ายทั้งขวา ก่อนที่นาวาโทชาวไทยจะได้จังหวะตะครุบหมับเข้าที่ข้อมือของปรปักษ์ แล้วกระชากสุดเหนี่ยวพร้อมกับเบี่ยงตัวซ้อนหลัง ยังผลให้คู่ต่อสู้อยู่ในสภาพถูกรัดคอล็อคแขนไขว้หลังในพริบตา
แต่เอ็ดเลอร์มีพลังสมกับร่างล่ำบึ้ก เพราะถึงแม้จะถูกบิดข้อมือจนมีดหลุด แต่มันแก้เกมด้วยการถลันเข้าหาผนังเรือที่อยู่ด้านหน้าพร้อมกับลากเอาธงอินทร์ที่ล็อคอยู่ทางด้านหลังให้ตามติดไปด้วย
“อย่านึกเลยว่าจะชนะกู!”
มันลั่นวาจาออกมาก่อนจะไต่เท้าขึ้นสู่ผนังด้วยกำลังขาอันมหาศาลจนร่างพ้นพื้นในท่าของนักกายกรรมชั้นยอดที่สามารถตีลังกากลับหลังกลางอากาศเพื่อที่จะหลุดจากวงล็อค แล้วม้วนลงมาสู่พื้นทางด้านหลังธงอินทร์แล้วเตะตัดในบัดดลอันต่อเนื่อง
ผัวะ!!
ทีเดียวเท่านั้นธงอินทร์ก็กลายเป็นต้นไม้ที่ถูกโค่นหล่นลงมาแล้วกระแทกพื้นโครมสนั่น
“เสร็จกูละ!”
เอ็ดเลอร์คำรามอย่างย่ามใจ ก่อนจะตามเข้าซ้ำด้วยการกระโดดตัวลอยฟาดตีนลงมาในท่ากระทืบ โดยมีคอหอยของธงอินทร์เป็นเป้า แต่พยัคฆ์ชาวไทยก็ไวพอที่จะตวัดสองมือขึ้นรับบาทาของศัตรูไว้ได้ ทั้งที่แรงกระทืบที่อัดลงมารุนแรงหนักหน่วงราวกับกระทุ้งด้วยสากตำข้าว
จังหวะที่ธงอินทร์ดูเหมือนจะเสียเท่า คมจักรก็แผดเสียงกระโจนเข้าใส่จนปรปักษ์ต่างชาติไม่มีทางเลือกเป็นอื่นนอกจากกระโดดหมุนตัวออกจากธงอินทร์เพื่อเหวี่ยงขาในท่าไซด์คิ๊กเข้าใส่คู่ต่อสู้คนที่สอง
ผัวะ!!
เสียงบาทากระแทกชายโครงดังสนั่น จนคนที่โดนเข้าไปสะท้านเยือก ทั้งที่เกร็งตัวรับเพื่อที่จะตวัดแขนหนีบขาคนเตะเอาไว้เพื่อล็อคเป้า พร้อมกับตั้งศอกเงื้อขึ้นแล้วกระแทกลงไปเต็มเหนี่ยว
บึ้ก!
หอกโมกศักดิ์ปักลงสู่หน้าขาอย่างถนัดถนี่ ยังผลให้องค์รักษ์ร่างใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และคมจักรก็ไม่ปล่อยให้วินาทีทองจากการที่คู่ต่อสู้ยืนขาเดียวผ่านไปโดยไร้ค่า
เพราะในพริบตาที่มองแทบไม่ทัน คมจักรก็โถมร่างเข้าชนเพื่อดันฝ่ายตรงข้ามให้เสียหลักเซถลาเข้าไปอัดกับผนังเรือโครมสนั่น ก่อนที่แม่ไม้มวยไทยอีกดอกคือเข่ากระทุ้งจะทิ่มพรวดเข้าที่กลางหว่างขาอันเป็นกล่องดวงใจของเอ็ดเลอร์เต็มแรงเกิด
ผัวะ!!
เสียงดังราวทุบมะพร้าวพร้อมๆ กับที่องครักษ์ร่างยักษ์สะดุ้งเฮือกแหกปากลั่น แต่ไม่ยอมล้มเพราะความที่ใหญ่กว่านายทหารชาวไทยอย่างเทียบกันไม่ได้ และก่อนที่คมจักรจะกระทุ้งเข่าซ้ำ เอ็ดเลอร์ก็แยกเขี้ยวสะบัดหัวโขกตูมออกมาเต็มแรง
ผัวะ!!
ทีเดียวเท่านั้น คมจักรหน้าสะบัด มือหลุดกระเด็นผางออกมา เมื่อเอ็ดเลอร์ทิ้งอีกขวาที่ปราศจากนวมหุ้มเข้าใส่ปากครึ่งจมูกครึ่งในจังหวะอันต่อเนื่อง และพลังกำปั้นของมันก็ทำให้คมจักรหมุนคว้างออกไปราวกับนกปีกหัก หัวปักลงไปจูบพื้นดังโครม
“เป็นไง… ไอ้ลูกหมา!”
เอ็ดเลอร์ร้องคำราม
“เจอหมัดเข้าไป สะใจดีมั้ย!”
“แค่นี้จิ๊บจ้อยว่ะ เพราะฉันเป็นพวกหัวร้อน ชอบความเจ็บปวด”
คมจักรยกหลังมือเช็ดเลือดบนริมฝีปาก
“วันไหนไม่ได้ปะทะ วันนั้นนอนไม่หลับว่ะ!”
ขาดคำ คมจักรก็ผุดลุกขึ้นแล้วถลันเข้าหาไอ้ยักษ์เอ็ดเลอร์ทางด้านซ้าย ขณะที่ธงอินทร์โผนเข้าใส่ทางด้านขวา ก่อนที่ลูกเตะของคู่พยัคฆ์ชาวไทยจะเหวี่ยงเข้าใส่ศัตรูพร้อมๆ กันแต่เป็นคนละเป้า
เพราะคมจักรหวดล่างเพื่อให้ปรปักษ์เข่าทรุด ขณะที่ธงอินทร์กระโดดตัวลอยเตะบน และอวัยวะเบื้องต่ำที่เหวี่ยงขึ้นสูงก็เสยเข้าที่ปลายคางอย่างเหมาะเหม็ง จนคนที่โดนเข้าไปหน้าสบัดหงายผงะ
แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดจบของมัน เพราะคนที่ปิดเกมการต่อสู้แบบแฮนด์ทูแฮนด์ คอมแบท ก็คือคมจักร ซึ่งกระโจนตามแล้วเหยียบลงบนหน้าขาของคนที่กำลังซวนเซ เพื่อสปริงตัวพร้อมกับเหวี่ยงขาขึ้นไปนั่งคร่อมบนคอชนิดมองแทบไม่ทัน
“ลงนรกไปเถอะ ไอ้ชั่ว!”
ขาดคำ คมจักรก็ทิ้งตัวลงสู่เบื้องล่าง โดยที่ขาข้างหนึ่งยังเกี่ยวคอต่อขององครักษ์ร่างยักษ์เอาไว้ และนั่นทำให้น้ำหนักที่ถ่วงลงมากลายเป็นกิโยตินที่สับลงสู่กระดูกก้านคอด้านหลังจนหักสะบั้นในพริบตา
วิญญาณขององครักษ์ทรชนมีอันปลิดปลิวไปสู่ยมโลก ก่อนที่กายกำยำทั้งร่างจะคว่ำหน้ากระแทกพื้นโครมสนั่นตายสนิทในบัดดล
ถึงตอนนั้นการปะทะดูเหมือนจะจบสิ้นลง เมื่อทีม รปภ. ถูกกวาดล้างจากช่องทางเดินชั้นบน จนไม่มีใครเหลือรอด ทำให้ทีมจู่โจมที่มีหลินชินเสียงเป็นผู้นำยึดอาณาบริเวณทั้งหมดไว้ได้อย่างเด็ดขาด
“เราต้องรีบไปจากที่นี่… ก่อนที่สเตลล์ลำนี้จะถูกโจมตีจากเรือดำน้ำ”
“นักบินจีนถูกยิง คุณรีบไปช่วยก่อนเถอะ”
ธงอินทร์บอกกับหลินชินเสียงเป็นประโยคแรก ก่อนที่จะเห็นหล่อนสั่นศีรษะ
“ไม่มีประโยชน์… เขาตายแล้ว”
“ผมเสียใจด้วย”
ธงอินทร์ถอนหายใจ
“แต่คนที่ฆ่าเขาก้อโดนเด็ดหัวไปแล้ว รวมทั้งดอกเตอร์อิสมาแอลที่อยู่เบื้องหลังการแฮ็กสัญญาณควบคุมจรวดก็ตายแล้วเหมือนกัน”
“ยังหรอกโว้ย.. แค่ลืมโลกชั่วคราวไปเท่านั้น”
คมจักรขัดขึ้น
“ฉันเพียงแต่แจกยาสลบตราบาทาให้มันเอาไปกินตอนที่โหนตัวลงมาจากชั้นบน จะได้ไม่เข้ามาวุ่นวายตอนที่เราจัดการกับไอ้ยักษ์จอมอึดตัวนี้”
“รีบไปกันเถอะค่ะ เวลาเหลือน้อยเต็มที”
หลินชินเสียงตัดบท ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ลูกทีมของตนจัดการกับจอมแฮ็กเกอร์
“เรามีของแถม… เอาเชลยไปด้วย”
“ครับ ผู้กอง”
ไกลออกไปใต้ทะเลอันดามัน ปลาเหล็กสัญชาติจีนที่ชื่อนานกิง กำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้ตำแหน่งยิงอาวุธทำลายเป้าหมายสายทุ่นสื่อสารสำหรับรับ-ส่งสัญญาณถูกปล่อยขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อติดต่อกับศูนย์ควบคุมเป็นครั้งสุดท้าย
“หน่วยเหนือยืนยันตำแหน่งเป้าหมายแล้วครับ”
นายทหารสื่อสารรายงานกับผู้บังคับการเรือ
“สเตลล์ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่มีการเคลื่อนที่”
“ป้อนพิกัดเป้าหมายให้อาวุธปล่อย”
ผู้บังคับการนานกิงสั่งการเสียงเข้มก่อนจะได้ยินเสียงตอบกลับมา
“กำหนดพิกัดเป้าหมายเรียบร้อย! อาวุธปล่อยพร้อมยิงครับ”
“นับถอยหลัง… 30 วินาที!”
บนท้องฟ้าที่อยู่ห่างจากผิวโลกกว่า 500 ไมล์ ภาพที่ดาวเทียมของมหาอำนาจตะวันออกถูกส่งไปยังศูนย์ควบคุมในนครปักกิ่งก็คือเรือลำหนึ่งซึ่งมีรูปทรงซ่อนพรางตนเองเพื่อให้กลายเป็น “สเตลล์” หรือเรือล่องหน
เรือลำนั้นจอดนิ่งอยู่หลังเกาะนิรนามทางตะวันออกห่างจากทะเลอาณาเขตของประเทศไทยไม่มากนัก โดยที่ทุกอย่างยังดูเป็นปกติเหมือนไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
แต่แล้วในบัดดลนั้นเอง สิ่งที่ดาวเทียมจับภาพได้ก็คือลูกไฟสว่างวาบที่แผดแผ่ออกมาจากเรือ พร้อมด้วยควันดำพวยพุ่งขึ้นมาจากตำแหน่งการระเบิด ขณะที่เศษชิ้นส่วนของสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรือปลิวกระจายออกมาทุกทิศทุกทาง
**************************