◊แฮ็กเกอร์มหาประลัย (3)◊
…………..
เรือหลวงนครราชสีมา
สามวินาทีหลังจากเครื่องบินขับไล่ “ไชนีส แร็ปเตอร์” เกาะหมู่กันเหนือทะเล
“แร็ปเตอร์ วัน จากนครราชสีมา… เราเห็นคุณบนจอแล้ว”
“จากแร็ปเตอร์ วัน… เรากำลังจะบินเข้าหาคุณ ขอทราบสถานการณ์”
คมจักรซึ่งอยู่ในที่นั่งหลังกรอกเสียงใส่วิทยุ
“อาวุธปล่อยพร้อมยิง ขณะนี้รอคำสั่งนับถอยหลังจากศูนย์ควบคุมบนเรือจักรีนฤเบศร”
“ทราบ”
คมจักรตอบก่อนจะเอื้อมมือไปสะกิดหลินชินเสียงในที่นั่งด้านหน้า
“เรายังมีเวลาครับ ผมอยากให้คุณโฉบไปเหนือเสากระโดงเรือทั้งสองลำ พวกเขาจะได้เห็นไชนีส แร็ปเตอร์ ด้วยสายตา”
“แน่ใจหรือว่าจะเอายังงั้น”
“แล้วกัน”
คมจักรขมวดคิ้ว
“ถ้าไม่แน่ใจ ผมจะพูดทำไม ยิ่งโฉบต่ำเท่าไหร่ยิ่งดี เขาจะได้เห็นว่านักบินหญิงของปักกิ่งสวยแค่ไหน”
แม้หลินชินเสียงจะรู้ว่าเหตุผลของคมจักรเป็นเรื่องไร้สาระ แต่เรือเอกหญิงแห่งกองทัพจีนก็ตระหนักชัดว่าการบินผ่านเรือย่อมเป็นสิ่งที่แสดงออกถึง “นัยสำคัญ” ในสถานการณ์ขณะนี้
เจรจา – ยินดี
สู้รบ – พร้อมเสมอ
ข่มขู่ – เรื่องเพ้อฝัน
ป้ายภาษาจีนข้างต้นถูกแขวนไว้พร้อมธงชาติตามสถานที่ต่างๆ ในปักกิ่งและทุกเมืองใหญ่ของประเทศจีนนับตั้งแต่สงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีนเริ่มต้นขึ้นหลังมาตรการขึ้นภาษีการค้าอีก 25 เปอร์เซ็นต์ที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์นำมาใช้ ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ของชาวจีนโดยพร้อมเพรียงกัน
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเปอร์เซียและการยิงจรวดข้ามชายแดนเข้าใส่เป้าหมายในดินแดนของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้นำทำเนียบขาวสั่งการให้กองเรือสหรัฐเดินทางเข้าสู่อ่าวเปอร์เซียพร้อมทั้งส่งป้อมบินยักษ์อย่างเครื่องบินบี-52 ไปยังฐานทัพในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้เพื่อเตรียมพิทักษ์ซาอุฯ และตอบโต้อิหร่านซึ่งมีรัสเซียและจีนเป็นพันธมิตรหลังจากที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายที่โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันและยิงขีปนาวุธเข้าใส่ซาอุดิอาระเบีย
ดังนั้นการที่เครื่องบินรบของจีนจะปรากฏตัวต่อหน้าเรือรบไทยซึ่งกำลังจะทำการยิงอาวุธปล่อยที่จีนผลิตขึ้น จึงไม่ต่างอะไรกับการตอกย้ำให้มหาอำนาจและชาติตะวันตกทั้งหลายได้ประจักษ์ว่า ศักยภาพทางทหารของจีนเข้มแข็งน่ายำเกรงเพียงใด และจีนพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
“ไชนีส แร็ปเตอร์ กำลังเกาะหมู่ตรงมายังจักรีนฤเบศรครับ”
รองผู้บัญชาการทหารเรือซึ่งอยู่ที่โพเดียมด้านหน้าของห้องบรรยายสรุปบอกกับนายกรัฐมนตรีและคณะวีไอพี
“ถึงเราจะไม่ได้อยู่บนดาดฟ้าแต่ก็สามารถมองเห็นเครื่องขับไล่ของจีนผ่านจอภาพในห้องนี้ครับ”
“เห็นแต่ภาพแล้วจะได้ยินเสียงคนของเราที่อยู่บนเครื่องด้วยหรือเปล่า”
รัฐมนตรีกลาโหมซึ่งเป็น “พี่ใหญ่” ของนายกฯ ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“ถ้าเป็นความต้องการของท่านละก็ ไม่มีปัญหาครับ”
พลเรือเอกปราการตอบคำถามนั้นแทน รอง ผบ.ทร. ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้นายธงประจำตัว
“รีบแจ้งศูนย์ยุทธการให้ติดต่อไปยังคนของเราบนเครื่องขับไล่ แล้วบอกเขาว่ารัฐมนตรีกลาโหมอยากได้ยินเสียงนักบินไทยที่อยู่บนอากาศยานของจีน”
“ครับผม”
นายธงหนุ่มชิดเท้าตรงพร้อมกับกระตุกร่างยืดอกอย่างแข็งแรง ขณะที่ตอบรับคำสั่งแล้วปฏิบัติโดยไม่ชักช้า และนั่นทำให้ในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา ทุกคนที่อยู่ในห้องบรรยายสรุปและกำลังจ้องมองไปยังภาพบนจอขนาดใหญ่ด้านหน้าได้ยินเสียงของคมจักรอย่างชัดเจน
“กระผมนาวาโทคมจักร… นักบินที่สองประจำเครื่องไชนีส แร็ปเตอร์ ขออนุญาตรายงานตัวครับ”
“เป็นไงบ้างผู้พัน”
อดีตผู้บัญชาการทหารบกพูดทักทาย
“นี่นายกฯ พูดนะ ตอนนี้เรากำลังรอชมถ่ายทอดการยิงอาวุธปล่อยอยู่บนเรือจักรีนฤเบศร”
“ครับผม แอร์เย็นดีแล้วนะครับ”
นาวาโทจอมทะเล้นพูดเหมือนคนที่สนิทสนมกันมานาน
“ผมทราบมาว่ากรมอู่ทหารเรือเพิ่งซ่อมทำน้ำชีลของระบบปรับอากาศเรือแล้วเสร็จเมื่อสัปดาห์ก่อน เตรียมรับท่านนายกฯ กับคณะโดยเฉพาะ”
“ผู้พันคมจักร ไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณ”
น้ำเสียงของพลเรือเอกปราการเข้มเหมือนดุ ก่อนจะได้ยินนายกฯ พูดด้วยเสียงปนหัวเราะ
“ปล่อยเขาเถอะ… ผมไม่ถือ”
“ใช่ครับ ถ้าถือไว้ก็จะหนัก และท่านนายกฯ ก็จะไม่มีอารมณ์แต่งเพลงใหม่สำหรับออกอัลบั้มลุงตุ๊ดตู่ชูไมค์”
“คมจักร… หยุดเดี๋ยวนี้”
ผู้บัญชาการทหารเรือร้องลั่น
“ไม่งั้นคุณจะโดนเล่นงานข้อหาผิดวินัย ขาดการเคารพผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น”
“ครับผม”
คมจักรยิ้มแหยๆ แต่ไม่มีใครเห็น
“ถ้างั้นขออนุญาตแจ้งรายละเอียดสุดท้ายว่านักบินที่หนึ่งมองเห็นเสากระโดงเรือจักรีฯ แล้ว เราจะโฉบผ่านเพื่อทำโซนิคบูมเดี๋ยวนี้!”
ไม่ถึงห้าวินาทีหลังเสียงของคมจักรขาดหาย สิ่งที่นายกรัฐมนตรีและคณะพร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือได้ยินก็คือเสียงหวีดแหลมแผดกระหึ่ม พร้อมกับอาการสั่นสะท้านของเรือทั้งลำราวกับถูกมือยักษ์จับเขย่า
มันบังเกิดขึ้นพร้อมกับภาพที่ปรากฏบนจอขนาดใหญ่ก็คือ อากาศยานสีหมอกปีกสามเหลี่ยมเกาะหมู่กันมาแล้วโฉบลิ่วเข้าหาเสากระโดงเรือพุ่งทะยานเฉียดผ่านไปในระยะใกล้สุดๆ จนสามารถมองเห็นนักบินที่อยู่ในค็อกพิทได้อย่างถนัด แม้จะเป็นช่วงเสี้ยววินาทีก็ตาม
“แร็ปเตอร์ วัน และแร็ปเตอร์ ทู จากนครราชสีมา… เราได้รับคำสั่งให้นับถอยหลังเพื่อยิงอาวุธปล่อย”
คมจักรและธงอินทร์ได้ยินการติดต่อจากพนักงานวิทยุของเรือที่แล่นอยู่บนผิวน้ำอย่างถนัด
“อีก 90 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย! ย้ำ… อีก 90 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย!”
“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ วัน”
คมจักรตอบรับ
“เราจะบินไปเคลียร์สนามยิงและตรวจสอบเป้าเป็นครั้งสุดท้ายเดี๋ยวนี้!”
ขาดคำ เครื่องบินขับไล่ของนาวีจีนก็จุดสันดาปท้ายอย่างฉับพลันยังผลให้ “แร็ปเตอร์ วัน” ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่พุ่งทะยานไปข้างหน้าก่อนที่ “แร็ปเตอร์ ทู” จะจุดสันดาปท้ายเหาะลิ่วตามไปในพริบตา
“หมู่บินแร็ปเตอร์… อีก 60 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย! ย้ำ… อีก 60 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย!”
เสียงขานเวลาดังขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กับที่นักบินจีนและลูกนาวีไทยที่อยู่บนเครื่องขับไล่ทั้งสองเครื่องมองเห็นความเป็นไปเบื้องล่างด้วยสายตาอย่างถนัด
“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ วัน… สนามยิงเคลียร์!”
คมจักรรายงานจากสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องล่างในจังหวะที่หลินชินเสียงนำเครื่องปักหัวดิ่งลงไป
“เป้าเรียบร้อย… ทุกอย่างเป็นปกติ!”
“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ ทู”
ธงอินทร์พูดขึ้นบ้าง
“เราจะบินวนอยู่เหนือเป้าเพื่อสังเกตการณ์ขณะอาวุธปล่อยโคจรเข้ามา”
“นครราชสีมารับทราบ”
พนักงานวิทยุบนเรือตอบกลับมา
“อีก 30 วิ… จะทำการยิงอาวุธปล่อย!”
“ผู้กองครับ”
คมจักรเอื้อมมือไปสะกิดหลินชินเสียง
“ผมอยากให้คุณเลี้ยวกลับไปที่เรือยิงในระหว่างที่แร็ปเตอร์ ทู บินวนเหนือเป้า”
“ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย”
“เพราะอาวุธปล่อยนำวิถีแบบกวางโจว 802 เป็นของจีน คุณควรจะได้เห็นการทำงานของมันตั้งแต่วินาทีแรกที่ออกจากท่อยิง”
หลินชินเสียงยิ้มเล็กน้อย
“คุณมีเหตุผลอื่นที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่า”
“เราอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกัน ถ้ามีประเด็นอื่นผมจะปิดบังคุณทำไม”
“ถ้างั้นคุณก็ควรจะบอกฉันเรื่องที่ตรวจพบความไม่ชอบมาพากลบนอาคารลอยน้ำซี สเตดดิ้ง ที่มีระบบซุปเปอร์คอมฯ ติดตั้งทั้งที่ไม่มีคนอยู่”
“คุณรู้ได้ยังไง”
หลินชินเสียงโยกคันบังคับยังผลให้ไชนีส แร็ปเตอร์ ตะแคงปีกแล้วฉีกตัวออกจากเข็มบินเดิมอย่างรวดเร็ว
“หน่วยข่าวกรองของจีนมีศักยภาพสูงไม่น้อยไปกว่าซีไอเอของสหรัฐ หรือเคจีบีของรัสเซีย”
หล่อนยิ้มกับตนเองอีกครั้ง
“ข้อมูลล่าสุดที่ฉันได้รับแจ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือให้ติดตามความเป็นไปและรายงานทันทีหากพบว่าระบบลึกลับนั้นรบกวนการยิงอาวุธปล่อยของจีน”
“คุณกำลังจะบอกผมว่ามีบางฝ่ายอยากขัดขวางหรือไม่ก็เก็บข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธปล่อยนำวิถีแบบกวางโจว 802 อย่างนั้นใช่มั้ย”
“นับถอยหลัง… 10 วินาที ยิงอาวุธปล่อย!”
เสียงที่แทรกเข้ามาทางวิทยุทำให้การสนทนาระหว่างคนทั้งสองหยุดชะงักก่อนที่คมจักรจะตอบกลับทันที
“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ วัน… เราจะกลับไปสังเกตการณ์เหนือเรือยิง! ย้ำ… เราจะกลับไปสังเกตการณ์เหนือเรือยิง!”
“6 วินาที!”
“5 วินาที!”
“4 วินาที!”
“นครราชสีมา เราเห็นดาดฟ้าเรือแล้ว”
คมจักรร้องบอก
“ท่อยิงหันออกทางกราบขวา!”
“3 วินาที!”
“2 วินาที!”
“1 วินาที…”
“ยิง!”
ขาดคำเสียงแผดลั่นสนั่นทะเลก็บังเกิดขึ้นบนดาดฟ้าเรือเกือบจะพร้อมๆ กับที่ลูกไฟสว่างวาบบังเกิดขึ้นที่แท่นยิงในวินาทีที่อาวุธปล่อยนำวิถีแบบกวางโจว 802 พุ่งทะยานออกจากท่อพร้อมด้วยควันขาวเป็นทางยาวมองเห็นได้อย่างถนัด
“กวางโจว-802 ยิงแล้ว!”
ทุกคนที่ติดตามสถานการณ์ได้ยินการรายงานนั้นอย่างถนัดพร้อมกับภาพที่เห็นทั้งจากจอและด้วยสายตาไม่ต่างอะไรกับเปลวไฟจากปากมังกรทะเลที่ถูกพ่นขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ผู้กอง… จรวดออกจากท่อ!”
“ฉันเห็นแล้ว”
หลินชินเสียงเหลือบตามองเพียงแว่บเดียวขณะที่ร้องตอบคมจักร
“เราจะบินประกบไปกับการเคลื่อนที่ของมัน”
“วิถีโคจรจรวดงามมากครับ พุ่งโค้งเป็นลำแล้วค่อยๆ ดิ่งลงในแนวขนานกับทะเล”
คมจักรร้องบอกขณะที่จ้องเขม็งไปยังสิ่งที่ปรากฏอยู่ด้านล่าง
“เสียงก็เพราะเสนาะหู หวีดแหลมเหมือนเสียงร้องของมังกรสามหัว กีโดร่าในหนังก็อตซิลล่าภาคใหม่”
“แร็ปเตอร์ ทู ยังอยู่เหนือเป้า เรามองเห็นจรวดแล้ว”
เสียงธงอินทร์แทรกเข้ามาก่อนที่จะมีเสียงจากนายทหารควบคุมอาวุธปล่อย
“5 วินาที จรวดชนเป้า!”
“กองเชียร์ช่วยนับครับ”
คมจักรไม่วายสอด
“…4 วินาที!”
“…3 วินาที!”
“…2 วินาที!”
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเสียงกัมปนาทกึกก้องจะต้องบังเกิดขึ้นในวินาทีอันต่อเนื่อง เมื่อจรวดชนเป้าแล้วจุดระเบิดทำลายล้างด้วยอานุภาพของมัน
แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น C-802 กลับหักหัวเปลี่ยนทิศเลี้ยวทะยานฉีกตัวออกไปอย่างฉับพลัน
“เฮ้ย!”
คมจักรร้องเสียงหลงด้วยความตกใจในทันทีที่มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
“ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”
หล่อนหลุดปากอย่างลืมตัวเกือบจะพร้อมๆ กับที่ได้ยินคมจักรกรอกเสียงใส่วิทยุเร็วปรื๋อ
“ธงอินทร์… รีบไปที่ซี สเตดดิ้ง แล้วเช็คสัญญาณจากที่นั่นให้ที!”
บัดดลเดียวกับที่สถานการณ์พลิกผัน หลินชินเสียงซึ่งอยู่ในค็อกพิทด้านหน้าก็รู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่จะต้องทำคืออะไร
เรือเอกหญิงจากทัพเรือจีนรีบโยกคันบังคับที่อยู่กลางหว่างขาเพื่อเลี้ยวตามอาวุธปล่อยที่หลุดจากเป้าชนิดไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปแม้แต่วินาทีเดียว
“จรวดหลุดจากเป้า มันจะโคจรไปไหนกัน”
“ไม่น่าถาม”
คมจักรร้องตอบหลินชินเสียง
“นายกฯ อยู่บนเรือจักรีฯ ถ้าคนที่ป่วนเราไม่คิดจะบังคับจรวดให้พุ่งชน มันก็โง่แล้ว!”
บัดนั้นเองที่ความโกลาหลอลหม่านบังเกิดขึ้นบนเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ของไทย เมื่อเรดาร์อากาศที่อยู่บนเสากลางลำจับทิศทางได้ว่า C-802 กำลังโคจรเข้ามายังตำแหน่งที่เรือลอยลำ
“ผู้การครับ จรวดอยู่ในระยะห่าง 2,000 หลา!”
“ประจำสถานีออกเรือฉุกเฉิน! อาวุธปล่อยเอสปิเด้เตรียมยิง!”
ผบ. เรือร้องสั่งเร็วปรื๋อก่อนจะกดไมค์กรอกเสียงไปยังห้องบรรยายสรุป
“ผู้บัญชาการครับ ขอให้ท่านและคณะของนายกฯ ลงไปอยู่ในเซฟรูมใต้โรงเก็บเครื่องบินเดี๋ยวนี้!”
“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ ทู… จรวดออกนอกวิถีเป้า ขอให้ใช้ระบบทำลายตนเอง”
คมจักรย้ำกับศูนย์ยุทธการของเรือยิง
“ย้ำ.. ขอให้ใช้ระบบทำลายตนเอง!”
“ระบบขัดข้อง!”
เสียงที่ตอบกลับมาร้อนรน
“เราสั่งทำลายตั้งแต่แรกที่เห็นข้อผิดพลาด แต่จรวดไม่ตอบสนองคำสั่ง”
“บ้าชิบ!”
คมจักรสบถออกมาอย่างลืมตัว
“ถ้ามันพุ่งชนเรือจักรีฯ ละก็ เรื่องใหญ่บรรลัยแน่!”
“ผู้พัน… บอกพวกของคุณว่าฉันจะทำลายจรวดเอง!”
เสียงร้องตะโกนของหลินชินเสียงดังขึ้นทำให้คมจักรรีบส่งข่าวต่อไปยังฝ่ายเดียวกันโดยไม่ชักช้า
“จักรีนฤเบศร.. จากแร็ปเตอร์ วัน… เรากำลังบินในทิศทางเดียวกับ C-802 เพื่อทำลายมัน อย่ายิงเรา!”
“ฉันล็อคเป้าได้แล้ว!”
หลินชินเสียงร้องบอกมาอีกครั้ง
“ยิงมันเลย ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว!”
คมจักรตะโกนเร็วปรื๋อและนั่นจึงทำให้นักบินสาวชาวจีนกดปุ่มปล่อยจรวดออกไปทันที
มีเสียงหวีดแหลมแผดก้องในวินาทีที่แอร์ ทู แอร์ มิสไซด์นำวิถีด้วยความร้อนพุ่งออกจากปีกของแร็ปเตอร์แหวกอากาศเข้าหาเป้าราวกับธนูไฟ
แต่แล้วสิ่งที่เหลือเชื่อก็บังเกิดขึ้น
เพราะอาวุธปล่อย C-802 เชิดหัวขึ้นราวกับมีนักบินบังคับแล้วทะยานเป็นมุมฉากขึ้นสู่ท้องฟ้าเข้าหาดวงอาทิตย์เหนือหัว โดยมีจรวดของแร็ปเตอร์ไล่ตามมาทางด้านหลังชนิดกัดไม่ปล่อย
หากเป็นการขับเคี่ยวกลางเวหาฝ่ายที่คว้าชัยได้ก็คืออาวุธปล่อย C-802 เพราะแทนที่จรวดจะแล่นเข้าหาความร้อนอันเกิดจากพลังขับที่พุ่งออกมาจากท้ายอาวุธปล่อย มันกลับกลายเป็นธนูไฟพลาดเป้าเมื่อ C-802 ฉีกตัวออกจากการทะยานเป็นมุมฉากอย่างฉับพลัน
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพลังแสงจากดวงอาทิตย์ที่มีความร้อนมากกว่า กลายเป็นตัวล่อเหมือนเป้าลวงให้จรวดนำวิถีแบบ “ฮีท ซีคเกอร์” สับสนและพุ่งขึ้นฟ้าต่อไปแทนที่จะไล่ตามเป้าจริงที่ต้องการทำลาย
“พระเจ้าช่วย!”
หลินชินเสียงอุทาน
“มันมีสมองหรือยังไงถึงหลบจรวดของเราได้”
“งั้นก็ซัดมันด้วยปืน!”
คมจักรร้องลั่น
“ถ้าอัดด้วยกระสุนหลายๆ ชุด เราคงจุดชนวนให้มันระเบิดได้ก่อนชนเป้า!”
โดยไม่ต้องให้คมจักรร้องบอกซ้ำสอง นักบินสาวชาวจีนกดปุ่มที่อยู่บนคันบังคับเครื่องทันที
เปรี้ยงๆๆๆๆ!!!
เปรี้ยงๆๆๆๆ!!!
ปืนกลอากาศแผดเสียงสนั่นหวั่นไหวพร้อมๆ กับที่ลูกไฟแดงวาบพุ่งตามกันไปเป็นสาย โดยมี C-802 เป็นที่หมาย
แต่มันก็เหมือนนรกบันดาล เพราะอาวุธปล่อยอัจฉริยะพลิกหลบราวกับมีนักบินบังคับ ยังผลให้กระสุนของหลินชินเสียงพลาดเป้าอย่างช่วยไม่ได้
“ผู้การครับ จรวดกำลังพุ่งเข้ามา ! ระยะห่าง 800 หลา ร่นเข้า!”
นายทหารยุทธการรายงานด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ล็อคเป้าได้มั้ย”
“ยังไม่ได้ครับ จรวดปล่อยสัญญาณแจมมิ่งรบกวนการล็อคออ !”
**************************************
อ่านทุกตอนคลิ๊กที่รูป