◊แฮ็กเกอร์มหาประลัย (3)◊
…………..

เรือหลวงนครราชสีมา

สามวินาทีหลังจากเครื่องบินขับไล่ “ไชนีส แร็ปเตอร์” เกาะหมู่กันเหนือทะเล

“แร็ปเตอร์ วัน จากนครราชสีมา… เราเห็นคุณบนจอแล้ว”

“จากแร็ปเตอร์ วัน… เรากำลังจะบินเข้าหาคุณ ขอทราบสถานการณ์”

คมจักรซึ่งอยู่ในที่นั่งหลังกรอกเสียงใส่วิทยุ

“อาวุธปล่อยพร้อมยิง ขณะนี้รอคำสั่งนับถอยหลังจากศูนย์ควบคุมบนเรือจักรีนฤเบศร”

“ทราบ”

คมจักรตอบก่อนจะเอื้อมมือไปสะกิดหลินชินเสียงในที่นั่งด้านหน้า

“เรายังมีเวลาครับ ผมอยากให้คุณโฉบไปเหนือเสากระโดงเรือทั้งสองลำ พวกเขาจะได้เห็นไชนีส แร็ปเตอร์ ด้วยสายตา”

“แน่ใจหรือว่าจะเอายังงั้น”

“แล้วกัน”

คมจักรขมวดคิ้ว

“ถ้าไม่แน่ใจ ผมจะพูดทำไม ยิ่งโฉบต่ำเท่าไหร่ยิ่งดี เขาจะได้เห็นว่านักบินหญิงของปักกิ่งสวยแค่ไหน”

แม้หลินชินเสียงจะรู้ว่าเหตุผลของคมจักรเป็นเรื่องไร้สาระ แต่เรือเอกหญิงแห่งกองทัพจีนก็ตระหนักชัดว่าการบินผ่านเรือย่อมเป็นสิ่งที่แสดงออกถึง “นัยสำคัญ” ในสถานการณ์ขณะนี้

              เจรจา – ยินดี

              สู้รบ – พร้อมเสมอ

              ข่มขู่ – เรื่องเพ้อฝัน

ป้ายภาษาจีนข้างต้นถูกแขวนไว้พร้อมธงชาติตามสถานที่ต่างๆ ในปักกิ่งและทุกเมืองใหญ่ของประเทศจีนนับตั้งแต่สงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีนเริ่มต้นขึ้นหลังมาตรการขึ้นภาษีการค้าอีก 25 เปอร์เซ็นต์ที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์นำมาใช้ ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ของชาวจีนโดยพร้อมเพรียงกัน

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเปอร์เซียและการยิงจรวดข้ามชายแดนเข้าใส่เป้าหมายในดินแดนของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้นำทำเนียบขาวสั่งการให้กองเรือสหรัฐเดินทางเข้าสู่อ่าวเปอร์เซียพร้อมทั้งส่งป้อมบินยักษ์อย่างเครื่องบินบี-52 ไปยังฐานทัพในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้เพื่อเตรียมพิทักษ์ซาอุฯ และตอบโต้อิหร่านซึ่งมีรัสเซียและจีนเป็นพันธมิตรหลังจากที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายที่โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันและยิงขีปนาวุธเข้าใส่ซาอุดิอาระเบีย

ดังนั้นการที่เครื่องบินรบของจีนจะปรากฏตัวต่อหน้าเรือรบไทยซึ่งกำลังจะทำการยิงอาวุธปล่อยที่จีนผลิตขึ้น จึงไม่ต่างอะไรกับการตอกย้ำให้มหาอำนาจและชาติตะวันตกทั้งหลายได้ประจักษ์ว่า ศักยภาพทางทหารของจีนเข้มแข็งน่ายำเกรงเพียงใด และจีนพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้

“ไชนีส แร็ปเตอร์ กำลังเกาะหมู่ตรงมายังจักรีนฤเบศรครับ”

รองผู้บัญชาการทหารเรือซึ่งอยู่ที่โพเดียมด้านหน้าของห้องบรรยายสรุปบอกกับนายกรัฐมนตรีและคณะวีไอพี

“ถึงเราจะไม่ได้อยู่บนดาดฟ้าแต่ก็สามารถมองเห็นเครื่องขับไล่ของจีนผ่านจอภาพในห้องนี้ครับ”

“เห็นแต่ภาพแล้วจะได้ยินเสียงคนของเราที่อยู่บนเครื่องด้วยหรือเปล่า”

รัฐมนตรีกลาโหมซึ่งเป็น “พี่ใหญ่” ของนายกฯ ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

“ถ้าเป็นความต้องการของท่านละก็ ไม่มีปัญหาครับ”

พลเรือเอกปราการตอบคำถามนั้นแทน รอง ผบ.ทร. ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้นายธงประจำตัว

“รีบแจ้งศูนย์ยุทธการให้ติดต่อไปยังคนของเราบนเครื่องขับไล่ แล้วบอกเขาว่ารัฐมนตรีกลาโหมอยากได้ยินเสียงนักบินไทยที่อยู่บนอากาศยานของจีน”

“ครับผม”

นายธงหนุ่มชิดเท้าตรงพร้อมกับกระตุกร่างยืดอกอย่างแข็งแรง ขณะที่ตอบรับคำสั่งแล้วปฏิบัติโดยไม่ชักช้า และนั่นทำให้ในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา ทุกคนที่อยู่ในห้องบรรยายสรุปและกำลังจ้องมองไปยังภาพบนจอขนาดใหญ่ด้านหน้าได้ยินเสียงของคมจักรอย่างชัดเจน

“กระผมนาวาโทคมจักร… นักบินที่สองประจำเครื่องไชนีส แร็ปเตอร์ ขออนุญาตรายงานตัวครับ”

“เป็นไงบ้างผู้พัน”

อดีตผู้บัญชาการทหารบกพูดทักทาย

“นี่นายกฯ พูดนะ ตอนนี้เรากำลังรอชมถ่ายทอดการยิงอาวุธปล่อยอยู่บนเรือจักรีนฤเบศร”

“ครับผม แอร์เย็นดีแล้วนะครับ”

นาวาโทจอมทะเล้นพูดเหมือนคนที่สนิทสนมกันมานาน

“ผมทราบมาว่ากรมอู่ทหารเรือเพิ่งซ่อมทำน้ำชีลของระบบปรับอากาศเรือแล้วเสร็จเมื่อสัปดาห์ก่อน เตรียมรับท่านนายกฯ กับคณะโดยเฉพาะ”

“ผู้พันคมจักร ไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณ”

น้ำเสียงของพลเรือเอกปราการเข้มเหมือนดุ ก่อนจะได้ยินนายกฯ พูดด้วยเสียงปนหัวเราะ

“ปล่อยเขาเถอะ… ผมไม่ถือ”

“ใช่ครับ ถ้าถือไว้ก็จะหนัก และท่านนายกฯ ก็จะไม่มีอารมณ์แต่งเพลงใหม่สำหรับออกอัลบั้มลุงตุ๊ดตู่ชูไมค์”

“คมจักร… หยุดเดี๋ยวนี้”

ผู้บัญชาการทหารเรือร้องลั่น

“ไม่งั้นคุณจะโดนเล่นงานข้อหาผิดวินัย ขาดการเคารพผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น”

“ครับผม”

คมจักรยิ้มแหยๆ แต่ไม่มีใครเห็น

“ถ้างั้นขออนุญาตแจ้งรายละเอียดสุดท้ายว่านักบินที่หนึ่งมองเห็นเสากระโดงเรือจักรีฯ แล้ว เราจะโฉบผ่านเพื่อทำโซนิคบูมเดี๋ยวนี้!”

ไม่ถึงห้าวินาทีหลังเสียงของคมจักรขาดหาย สิ่งที่นายกรัฐมนตรีและคณะพร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือได้ยินก็คือเสียงหวีดแหลมแผดกระหึ่ม พร้อมกับอาการสั่นสะท้านของเรือทั้งลำราวกับถูกมือยักษ์จับเขย่า

มันบังเกิดขึ้นพร้อมกับภาพที่ปรากฏบนจอขนาดใหญ่ก็คือ อากาศยานสีหมอกปีกสามเหลี่ยมเกาะหมู่กันมาแล้วโฉบลิ่วเข้าหาเสากระโดงเรือพุ่งทะยานเฉียดผ่านไปในระยะใกล้สุดๆ จนสามารถมองเห็นนักบินที่อยู่ในค็อกพิทได้อย่างถนัด แม้จะเป็นช่วงเสี้ยววินาทีก็ตาม

“แร็ปเตอร์ วัน และแร็ปเตอร์ ทู จากนครราชสีมา… เราได้รับคำสั่งให้นับถอยหลังเพื่อยิงอาวุธปล่อย”

คมจักรและธงอินทร์ได้ยินการติดต่อจากพนักงานวิทยุของเรือที่แล่นอยู่บนผิวน้ำอย่างถนัด

“อีก 90 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย! ย้ำ… อีก 90 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย!”

“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ วัน”

คมจักรตอบรับ

“เราจะบินไปเคลียร์สนามยิงและตรวจสอบเป้าเป็นครั้งสุดท้ายเดี๋ยวนี้!”

ขาดคำ เครื่องบินขับไล่ของนาวีจีนก็จุดสันดาปท้ายอย่างฉับพลันยังผลให้ “แร็ปเตอร์ วัน” ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่พุ่งทะยานไปข้างหน้าก่อนที่ “แร็ปเตอร์ ทู” จะจุดสันดาปท้ายเหาะลิ่วตามไปในพริบตา

“หมู่บินแร็ปเตอร์… อีก 60 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย! ย้ำ… อีก 60 วิ จะทำการยิงอาวุธปล่อย!”

เสียงขานเวลาดังขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กับที่นักบินจีนและลูกนาวีไทยที่อยู่บนเครื่องขับไล่ทั้งสองเครื่องมองเห็นความเป็นไปเบื้องล่างด้วยสายตาอย่างถนัด

“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ วัน… สนามยิงเคลียร์!”

คมจักรรายงานจากสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องล่างในจังหวะที่หลินชินเสียงนำเครื่องปักหัวดิ่งลงไป

“เป้าเรียบร้อย… ทุกอย่างเป็นปกติ!”

“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ ทู”

ธงอินทร์พูดขึ้นบ้าง

“เราจะบินวนอยู่เหนือเป้าเพื่อสังเกตการณ์ขณะอาวุธปล่อยโคจรเข้ามา”

“นครราชสีมารับทราบ”

พนักงานวิทยุบนเรือตอบกลับมา

“อีก 30 วิ… จะทำการยิงอาวุธปล่อย!”

“ผู้กองครับ”

คมจักรเอื้อมมือไปสะกิดหลินชินเสียง

“ผมอยากให้คุณเลี้ยวกลับไปที่เรือยิงในระหว่างที่แร็ปเตอร์ ทู บินวนเหนือเป้า”

“ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย”

“เพราะอาวุธปล่อยนำวิถีแบบกวางโจว 802 เป็นของจีน คุณควรจะได้เห็นการทำงานของมันตั้งแต่วินาทีแรกที่ออกจากท่อยิง”

หลินชินเสียงยิ้มเล็กน้อย

“คุณมีเหตุผลอื่นที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่า”

“เราอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกัน ถ้ามีประเด็นอื่นผมจะปิดบังคุณทำไม”

“ถ้างั้นคุณก็ควรจะบอกฉันเรื่องที่ตรวจพบความไม่ชอบมาพากลบนอาคารลอยน้ำซี สเตดดิ้ง ที่มีระบบซุปเปอร์คอมฯ ติดตั้งทั้งที่ไม่มีคนอยู่”

“คุณรู้ได้ยังไง”

หลินชินเสียงโยกคันบังคับยังผลให้ไชนีส แร็ปเตอร์ ตะแคงปีกแล้วฉีกตัวออกจากเข็มบินเดิมอย่างรวดเร็ว

“หน่วยข่าวกรองของจีนมีศักยภาพสูงไม่น้อยไปกว่าซีไอเอของสหรัฐ หรือเคจีบีของรัสเซีย”

หล่อนยิ้มกับตนเองอีกครั้ง

“ข้อมูลล่าสุดที่ฉันได้รับแจ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือให้ติดตามความเป็นไปและรายงานทันทีหากพบว่าระบบลึกลับนั้นรบกวนการยิงอาวุธปล่อยของจีน”

“คุณกำลังจะบอกผมว่ามีบางฝ่ายอยากขัดขวางหรือไม่ก็เก็บข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธปล่อยนำวิถีแบบกวางโจว 802 อย่างนั้นใช่มั้ย”

“นับถอยหลัง… 10 วินาที ยิงอาวุธปล่อย!”

เสียงที่แทรกเข้ามาทางวิทยุทำให้การสนทนาระหว่างคนทั้งสองหยุดชะงักก่อนที่คมจักรจะตอบกลับทันที

“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ วัน… เราจะกลับไปสังเกตการณ์เหนือเรือยิง! ย้ำ… เราจะกลับไปสังเกตการณ์เหนือเรือยิง!”

“6 วินาที!”

“5 วินาที!”

“4 วินาที!”

“นครราชสีมา เราเห็นดาดฟ้าเรือแล้ว”

คมจักรร้องบอก

“ท่อยิงหันออกทางกราบขวา!”

“3 วินาที!”

“2 วินาที!”

“1 วินาที…”

              “ยิง!”

ขาดคำเสียงแผดลั่นสนั่นทะเลก็บังเกิดขึ้นบนดาดฟ้าเรือเกือบจะพร้อมๆ กับที่ลูกไฟสว่างวาบบังเกิดขึ้นที่แท่นยิงในวินาทีที่อาวุธปล่อยนำวิถีแบบกวางโจว 802 พุ่งทะยานออกจากท่อพร้อมด้วยควันขาวเป็นทางยาวมองเห็นได้อย่างถนัด

“กวางโจว-802 ยิงแล้ว!”

ทุกคนที่ติดตามสถานการณ์ได้ยินการรายงานนั้นอย่างถนัดพร้อมกับภาพที่เห็นทั้งจากจอและด้วยสายตาไม่ต่างอะไรกับเปลวไฟจากปากมังกรทะเลที่ถูกพ่นขึ้นสู่ท้องฟ้า

“ผู้กอง… จรวดออกจากท่อ!”

“ฉันเห็นแล้ว”

หลินชินเสียงเหลือบตามองเพียงแว่บเดียวขณะที่ร้องตอบคมจักร

“เราจะบินประกบไปกับการเคลื่อนที่ของมัน”

“วิถีโคจรจรวดงามมากครับ พุ่งโค้งเป็นลำแล้วค่อยๆ ดิ่งลงในแนวขนานกับทะเล”

คมจักรร้องบอกขณะที่จ้องเขม็งไปยังสิ่งที่ปรากฏอยู่ด้านล่าง

“เสียงก็เพราะเสนาะหู หวีดแหลมเหมือนเสียงร้องของมังกรสามหัว กีโดร่าในหนังก็อตซิลล่าภาคใหม่”

“แร็ปเตอร์ ทู ยังอยู่เหนือเป้า เรามองเห็นจรวดแล้ว”

เสียงธงอินทร์แทรกเข้ามาก่อนที่จะมีเสียงจากนายทหารควบคุมอาวุธปล่อย

“5 วินาที จรวดชนเป้า!”

“กองเชียร์ช่วยนับครับ”

คมจักรไม่วายสอด

“…4 วินาที!”

“…3 วินาที!”

“…2 วินาที!”

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเสียงกัมปนาทกึกก้องจะต้องบังเกิดขึ้นในวินาทีอันต่อเนื่อง เมื่อจรวดชนเป้าแล้วจุดระเบิดทำลายล้างด้วยอานุภาพของมัน

แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น C-802 กลับหักหัวเปลี่ยนทิศเลี้ยวทะยานฉีกตัวออกไปอย่างฉับพลัน

“เฮ้ย!”

คมจักรร้องเสียงหลงด้วยความตกใจในทันทีที่มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

“ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”

หล่อนหลุดปากอย่างลืมตัวเกือบจะพร้อมๆ กับที่ได้ยินคมจักรกรอกเสียงใส่วิทยุเร็วปรื๋อ

“ธงอินทร์… รีบไปที่ซี สเตดดิ้ง แล้วเช็คสัญญาณจากที่นั่นให้ที!”

บัดดลเดียวกับที่สถานการณ์พลิกผัน หลินชินเสียงซึ่งอยู่ในค็อกพิทด้านหน้าก็รู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่จะต้องทำคืออะไร

เรือเอกหญิงจากทัพเรือจีนรีบโยกคันบังคับที่อยู่กลางหว่างขาเพื่อเลี้ยวตามอาวุธปล่อยที่หลุดจากเป้าชนิดไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปแม้แต่วินาทีเดียว

“จรวดหลุดจากเป้า มันจะโคจรไปไหนกัน”

“ไม่น่าถาม”

คมจักรร้องตอบหลินชินเสียง

“นายกฯ อยู่บนเรือจักรีฯ ถ้าคนที่ป่วนเราไม่คิดจะบังคับจรวดให้พุ่งชน มันก็โง่แล้ว!”

บัดนั้นเองที่ความโกลาหลอลหม่านบังเกิดขึ้นบนเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ของไทย เมื่อเรดาร์อากาศที่อยู่บนเสากลางลำจับทิศทางได้ว่า C-802 กำลังโคจรเข้ามายังตำแหน่งที่เรือลอยลำ

“ผู้การครับ จรวดอยู่ในระยะห่าง 2,000 หลา!”

“ประจำสถานีออกเรือฉุกเฉิน! อาวุธปล่อยเอสปิเด้เตรียมยิง!”

ผบ. เรือร้องสั่งเร็วปรื๋อก่อนจะกดไมค์กรอกเสียงไปยังห้องบรรยายสรุป

“ผู้บัญชาการครับ ขอให้ท่านและคณะของนายกฯ ลงไปอยู่ในเซฟรูมใต้โรงเก็บเครื่องบินเดี๋ยวนี้!”

“นครราชสีมา จากแร็ปเตอร์ ทู… จรวดออกนอกวิถีเป้า ขอให้ใช้ระบบทำลายตนเอง”

คมจักรย้ำกับศูนย์ยุทธการของเรือยิง

“ย้ำ.. ขอให้ใช้ระบบทำลายตนเอง!”

“ระบบขัดข้อง!”

เสียงที่ตอบกลับมาร้อนรน

“เราสั่งทำลายตั้งแต่แรกที่เห็นข้อผิดพลาด แต่จรวดไม่ตอบสนองคำสั่ง”

“บ้าชิบ!”

คมจักรสบถออกมาอย่างลืมตัว

“ถ้ามันพุ่งชนเรือจักรีฯ ละก็ เรื่องใหญ่บรรลัยแน่!”

“ผู้พัน… บอกพวกของคุณว่าฉันจะทำลายจรวดเอง!”

เสียงร้องตะโกนของหลินชินเสียงดังขึ้นทำให้คมจักรรีบส่งข่าวต่อไปยังฝ่ายเดียวกันโดยไม่ชักช้า

“จักรีนฤเบศร.. จากแร็ปเตอร์ วัน… เรากำลังบินในทิศทางเดียวกับ C-802 เพื่อทำลายมัน อย่ายิงเรา!”

“ฉันล็อคเป้าได้แล้ว!”

หลินชินเสียงร้องบอกมาอีกครั้ง

“ยิงมันเลย ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว!”

คมจักรตะโกนเร็วปรื๋อและนั่นจึงทำให้นักบินสาวชาวจีนกดปุ่มปล่อยจรวดออกไปทันที

มีเสียงหวีดแหลมแผดก้องในวินาทีที่แอร์ ทู แอร์ มิสไซด์นำวิถีด้วยความร้อนพุ่งออกจากปีกของแร็ปเตอร์แหวกอากาศเข้าหาเป้าราวกับธนูไฟ

แต่แล้วสิ่งที่เหลือเชื่อก็บังเกิดขึ้น

เพราะอาวุธปล่อย C-802 เชิดหัวขึ้นราวกับมีนักบินบังคับแล้วทะยานเป็นมุมฉากขึ้นสู่ท้องฟ้าเข้าหาดวงอาทิตย์เหนือหัว โดยมีจรวดของแร็ปเตอร์ไล่ตามมาทางด้านหลังชนิดกัดไม่ปล่อย

หากเป็นการขับเคี่ยวกลางเวหาฝ่ายที่คว้าชัยได้ก็คืออาวุธปล่อย C-802 เพราะแทนที่จรวดจะแล่นเข้าหาความร้อนอันเกิดจากพลังขับที่พุ่งออกมาจากท้ายอาวุธปล่อย มันกลับกลายเป็นธนูไฟพลาดเป้าเมื่อ C-802 ฉีกตัวออกจากการทะยานเป็นมุมฉากอย่างฉับพลัน

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพลังแสงจากดวงอาทิตย์ที่มีความร้อนมากกว่า กลายเป็นตัวล่อเหมือนเป้าลวงให้จรวดนำวิถีแบบ “ฮีท ซีคเกอร์” สับสนและพุ่งขึ้นฟ้าต่อไปแทนที่จะไล่ตามเป้าจริงที่ต้องการทำลาย

“พระเจ้าช่วย!”

หลินชินเสียงอุทาน

“มันมีสมองหรือยังไงถึงหลบจรวดของเราได้”

“งั้นก็ซัดมันด้วยปืน!”

คมจักรร้องลั่น

“ถ้าอัดด้วยกระสุนหลายๆ ชุด เราคงจุดชนวนให้มันระเบิดได้ก่อนชนเป้า!”

โดยไม่ต้องให้คมจักรร้องบอกซ้ำสอง นักบินสาวชาวจีนกดปุ่มที่อยู่บนคันบังคับเครื่องทันที

              เปรี้ยงๆๆๆๆ!!!

              เปรี้ยงๆๆๆๆ!!!

ปืนกลอากาศแผดเสียงสนั่นหวั่นไหวพร้อมๆ กับที่ลูกไฟแดงวาบพุ่งตามกันไปเป็นสาย โดยมี C-802 เป็นที่หมาย

แต่มันก็เหมือนนรกบันดาล เพราะอาวุธปล่อยอัจฉริยะพลิกหลบราวกับมีนักบินบังคับ ยังผลให้กระสุนของหลินชินเสียงพลาดเป้าอย่างช่วยไม่ได้

“ผู้การครับ จรวดกำลังพุ่งเข้ามา ! ระยะห่าง 800 หลา ร่นเข้า!”

นายทหารยุทธการรายงานด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ล็อคเป้าได้มั้ย”

“ยังไม่ได้ครับ จรวดปล่อยสัญญาณแจมมิ่งรบกวนการล็อคออ !”

**************************************


 อ่านทุกตอนคลิ๊กที่รูป 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่