ความสามารถพิเศษ
กงซุนหลงช่วงที่อาศัยอยู่ในนครรัฐจ้าว กล่าวต่อบรรดาสานุศิษย์ว่า
“ผู้ที่ไร้ความสามารถ ข้าไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย”
ทันใดนั้น มีชายแต่งตัวซอมซ่อผู้หนึ่งเดินออกมาเบื้องหน้า เอ่ยถามกงซุนหลงด้วยความเคารพว่า
“ผู้น้อยสามารถตะโกนเสียงดังไปไกล จะขอเป็นลูกศิษย์ติดตามท่านได้หรือไม่?”
กงซุนหลงกวาดสายตามองเหล่าสานุศิษย์
“พวกเจ้ามีใครทำได้เช่นนี้บ้าง?”
ลูกศิษย์ทั้งหลายต่างปฏิเสธ
กงซุนหลงจึงตอบรับความปรารถนาของชายผู้นั้น
“ตกลง ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์”
คล้อยหลังจากนั้นหลายวัน ระหว่างการเดินทางไปพบอ๋องแห่งนครรัฐเยียน ขบวนของกงซุนหลงมาหยุดลงตรงหน้าแม่น้ำสายใหญ่ มองเห็นเรือข้ามฟากจอดพักอยู่ยังฝั่งตรงข้าม กงซุนหลงจึงให้ลูกศิษย์คนใหม่ร้องตะโกนเรียกเรือที่อยู่ไกลลิบ คนแจวเรือได้ยินเสียงในทันที รีบคว้าพายตวัดน้ำ มุ่งหน้ามารับคณะของกงซุนหลง…
(เรียบเรียงจากคัมภีร์ฮว๋ายหนานจื่อ
ประพันธ์โดย หลิวอัน ยุคต้นราชวงศ์ฮั่น)
ลูกศิษย์คนล่าสุดของกงซุนหลงไม่ได้มีความสามารถเลอเลิศประเสริฐสุด หรือเก่งกาจเกินมนุษย์จนน่าทึ่ง แต่ก็มีความสามารถทำประโยชน์ให้แก่หมู่คณะในสิ่งที่ผู้อื่นทำได้ไม่ดีเท่า
กงซุนหลงเป็นนักคิดคนสำคัญคนหนึ่งในยุคจั้นกว๋อ (ก่อน ค.ศ. 475 – ก่อน ค.ศ. 221) ได้ชื่อว่าเป็นนักตรรกวิทยารุ่นแรกของจีน มีผลงานเหลือตกทอดมาถึงปัจจุบันน้อยมาก งานเขียนส่วนใหญ่เป็นบันทึกความคิดเชิงอภิปรัชญา มุ่งชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง “ลักษณะเฉพาะ” กับ “ลักษณะทั่วไป” เช่น ข้อวิจารณ์ในเรื่อง “ม้าขาวมิใช่ม้า” อันมีชื่อเสียงโด่งดัง
วิธีคิดและวิธีการนำเสนอของกงซุนหลง คล้ายคลึงกับวิธีคิดและวิธีนำเสนอของนักปรัชญาในโลกตะวันตก แต่เนื่องจากมีความสุดโต่งจนเกินไป จึงไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศจีน
เรื่องที่นำมาเล่าข้างต้นนี้ เป็นงานที่คนรุ่นหลังบันทึกไว้ ไม่ทราบเช่นกันว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของกงซุนหลงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม กงซุนหลงในเรื่องเป็นตัวอย่างที่ดีในการมองเห็นประโยชน์ในความไร้ประโยชน์ มองเห็นความสามารถในความไร้สามารถ จัดสรรคนให้เหมาะกับงาน จึงผ่านอุปสรรคของการเดินทางได้อย่างง่ายดาย
กงซุนหลงตัดสินใจรับลูกศิษย์คนใหม่มาร่วมทีม เพราะภายในทีมยังขาดผู้ที่มีคุณสมบัติประเภทนี้ แม้ว่าอาจจะมีบางคนแอบหัวเราะอยู่ในใจ
คนเป็นผู้นำ บางครั้งก็จำเป็นต้องอดทนต่อเสียงหัวเราะ หรือคำค่อนขอดของผู้ที่ไม่เข้าใจ เพราะผู้นำคือผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ย่อมจะมองเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ย่อมจะครุ่นคิดในสิ่งที่คนทั้งหลายคิดไปไม่ถึง
ภาษิตจีนประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า
养兵千日,用之一时。
(เลี้ยงทหารพันวัน เพียงใช้งานชั่วขณะ)
แต่ “ชั่วขณะ” นั้น คือชั่วขณะแห่งความเป็นความตาย คือชั่วขณะที่จะเอาชนะห้วงแห่งความคับขัน หรือฝ่าฟันเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย
ผู้นำที่ดีจึงไม่ควรมองข้ามผู้คนตัวเล็กตัวน้อยในหน่วยงาน และยังต้องรู้จัก “ลักษณะเฉพาะ” ของทีมงานแต่ละคน เพื่อจะจัดสรรกำลังพลให้เหมาะสม
แล้วคนตัวเล็กๆ เหล่านี้ จะช่วยผู้นำสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เมื่อสถานการณ์มาถึง!
คอลัมน์: คารมคมความคิด
เรื่อง: ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม